SCB Abacus ร่วมกับ Robinhood ฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย หนุนไรเดอร์ห่างไกลเงินกู้นอกระบบด้วยสินเชื่อออนไลน์ “MoneyThunder” หรือ “เงินทันเด้อ” ทราบผลการพิจารณาและได้รับวงเงินภายใน 15 นาที ตอกย้ำเป้าหมายที่จะให้บริการสินเชื่อกับกลุ่มคนกู้ยาก 10% ในไทยหรือราว 2.5 ล้านคน ภายในปี 2567
ล่าสุด SCB Abacus ได้ร่วมมือกับทาง Robinhood ฟู้ดเดลิเวอรีสัญชาติไทย สนับสนุนผู้ส่งอาหารหรือ ไรเดอร์ของ Robinhood ได้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อเงินสดจากทาง SCB Abacus ผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างแอปพลิเคชันเงินทันเด้อ (MoneyThunder) โดยไม่ต้องมีหลักประกันใดๆ เพราะถือเป็นประเภทเงินกู้ที่เหมาะสมกับกลุ่มไรเดอร์ ซึ่งเป็นอาชีพที่เกิดขึ้นใหม่ในหมู่ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เนื่องจากการรวบรวมเอกสารรายได้ที่แน่นอนเป็นเรื่องยาก ส่งผลให้ไรเดอร์ส่วนใหญ่จำเป็นต้องหันไปพึ่งพาการกู้เงินนอกระบบมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในชีวิตประจำวันแทน แต่โครงการนี้จะทำให้สิ่งที่เคยเป็นอุปสรรคในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเป็นเรื่องง่ายขึ้น
ปัจจุบัน Robinhood มีลูกค้าลงทะเบียนใช้งานจำนวนกว่า 3 ล้านคน มีร้านค้าบนแพลตฟอร์ม กว่า 258,000 ร้าน มีไรเดอร์ที่ให้บริการส่งอาหารกว่า 30,000 คน และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจนได้รับความนิยมกลายเป็นผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรีอันดับ 2 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดย Robinhood ตั้งเป้าหมายขยายขอบเขตการให้บริการสู่ธุรกิจ Non-Food ครอบคลุมบริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์แบบครบวงจร (all-in-one online travel service) ซึ่งเปิดให้บริการแล้วเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า (Mart Service) บริการรับ-ส่งของ (Express Service) และบริการ Ride-Hailing หรือบริการรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย เพื่อปูทางสู่การเป็น “Super App สัญชาติไทย” ต่อไป
แอปพลิเคชันเงินทันเด้อ ผลิตภัณฑ์หลักของ SCB Abacus เป็นแพลตฟอร์มกู้เงินถูกกฎหมายแบบออนไลน์ 100% ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อให้บริการเจาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ โดยบริษัทได้นำเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเองในชื่อ Abacus Core Technology (ACT) เข้ามาพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ทั้งนี้ บริษัทเป็นผู้ให้สินเชื่อดิจิทัลรายแรกในไทยที่ใช้การประมวลผลจากข้อมูลมหาศาลแบบรอบด้าน (Alternative Data) เพื่อสร้างโมเดลการอนุมัติแบบตอบโจทย์เฉพาะบุคคล (Personalization) จึงช่วยให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อมากกว่า และได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบายที่สุด เพราะสามารถทราบผลการพิจารณาและได้รับวงเงินภายใน 15 นาที ตอกย้ำเป้าหมายการเป็น “Lifeline” ให้กับลูกค้าทั้งในภาวะกำลังฟื้นตัว และในทุก ๆ ก้าวของชีวิต
“เรามีจุดประสงค์ในการช่วยพลิกคุณภาพการเงินของคนเครดิตน้อย กู้ยากในเมืองไทย โดยตั้งเป้าที่จะให้บริการสินเชื่อกับกลุ่มคนกู้ยาก 10% ในไทยหรือราว 2.5 ล้านคน ภายในปี 2567 พร้อมก้าวเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต โดยเรายินดีเปิดรับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันในการร่วมสร้างโอกาสทางการเงินให้กับผู้คนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งไปพร้อมกันๆ ทำให้ SCB Abacus สามารถขยายฐานลูกค้าออกไปได้ 6 เท่าตัวในช่วงปีที่ผ่านมา” ดร.อัญญรัตน์กล่าวทิ้งท้าย