CHEWA เป๋าตุง รับทะลุพันล้าน กำไร 100 ล้าน โต 410% ยึดเป้าหมายโตทั้งปี พร้อมลุยพัฒนาหาที่ดินเต็มกำลัง

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,195.96 ล้านบาท เฉพาะในไตรมาสที่ 2 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 889.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 63.31 % โดยรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 577.76 ล้านบาท คิดเป็น 65.64% เพิ่มขึ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 70.22% เนื่องจากมีโครงการใหม่ที่รับรู้รายได้ในไตรมาสนี้ ได้แก่โครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า ส่วนรายได้จากโครงการแนวราบ จำนวน 302.40 ล้านบาท คิดเป็น 34.36 % ของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 65.93 % บริษัทมีรายได้อื่นๆ จํานวน 9.09 ล้านบาท คิดเป็น 1.02 % ของรายได้รวม ทำให้การดำเนินงาน 3 เดือนของไตรมาส 2 นี้ บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 100.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 410.43% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ที่บริษัทมีกำไร 19.66 ล้านบาท

โดยรายได้ที่เติบโตขึ้นมากในไตรมาส 2 ได้แรงหนุนจากการโอนโครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า และโครงการเดิมที่ยังมี Backlog ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จดังกล่าวมาจากการพัฒนาระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพทั้งบริการ รวมถึงคุณภาพของโครงการ ที่ชีวาทัยใส่ใจและดูแลลูกค้าอย่างมีมาตรฐาน ทำให้นอกจากยอดขายที่ดีแล้ว ยังมีการวัดและประเมินผลความพึงพอใจลูกค้า ด้วยยอดการรับสินค้าในครั้งแรก (ZERO DEFECT) สูงกว่า 80% ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้น

บริษัทฯ ยังคงยึดมั่นเป้าหมายทั้งปี 2565 ที่ 2,800 ล้านบาท นอกจากโครงการใหม่ที่รับรู้รายได้บางส่วนแล้วในไตรมาส 2 อย่างโครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า อีกหนึ่งโครงการที่กำลังก่อสร้าง และคาดว่าจะรับรู้รายได้ตามกำหนดในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ คือโครงการชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 (เฟส2) มูลค่าโครงการ 994 ล้านบาท ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากเฟส 1 ที่เปิดเมื่อปีที่ผ่านมาแล้ว โครงการชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 (เฟส 2) นี้ ยังเป็นโครงการแรกของชีวาทัยที่เป็นคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วย

ด้านการลงทุน บริษัทฯยังคงยึดแผนหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการเพิ่มเติม ตามเป้าหมาย 6 โครงการ ภายในปี 2565 ในวงเงิน 5,000 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ แบรนด์ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค 2-3 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,800 ล้านบาท บ้านเดี่ยวแบรนด์ชีวารมย์ 2 โครงการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท และทาวน์โฮมแบรนด์ชีวาโฮม 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท

ด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย หลังจากที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าด้านคุณภาพและบริการหลังการขายมาแล้ว

“ชีวาทัย” ยังคงยึดมั่นด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย จาก “ ชีวาแคร์ ” ยึดมั่นเป้าหมายขึ้นที่ 1 ในใจลูกค้าด้านคุณภาพและบริการ สำหรับกลุ่มบริษัทอสังหาฯ ช่วงรายได้ไม่เกิน 5 พันล้านบาท พร้อมกันนี้ยังคงเดินหน้ารักษาคุณภาพสินค้าให้ลูกค้าตรวจ Zero Defect ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อโครงการกับชีวาทัย ได้สิ่งที่ดีและมีคุณภาพสูงสุด ตั้งแต่บริการก่อนการขายตลอดจนถึงบริการหลังการขาย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดสู่ลูกค้าทุกคน ” นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว