ตำรวจสังกัดสอบสวนกลาง จับผู้ต้องหาแล้ว 14 ราย พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย หรือกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เพื่อปกป้องสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัยโดยรวม
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้บูรณาการร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินคดีและการประสานข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมระหว่าง ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กับ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) โดยมีนายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และ พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน ณ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือในการเชื่อมโยง แลกเปลี่ยน และเปิดเผยข้อมูลดิจิทัลเกี่ยวกับข้อมูลการฉ้อฉลประกันภัย ที่มีการจัดทำและครอบครองโดยสำนักงาน คปภ. เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน สอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน รวมทั้งประสานงานดำเนินการทางคดีที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย หรือกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
ประเด็นที่ 2 บช.ก. จะพัฒนาและเชื่อมโยงระบบตรวจสอบบุคคลเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมกับสำนักงาน คปภ. ตามช่องทางที่ได้ตกลงกัน
ประเด็นที่ 3 บช.ก. จะประสานงานและดำเนินการทางคดีให้สำนักงาน คปภ. เกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต กฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย หรือกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
และประเด็นที่ 4 ในการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ สำนักงาน คปภ. และ บช.ก. ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายว่าด้วยการข้อมูลข่าวสารของราชการ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนดว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ เป็นต้น และต้องไม่นำข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายไปใช้ในทางที่ก่อให้เกิดความเสียหาย หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่เจ้าของข้อมูล หากมีความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการกระทำของผู้ที่นำข้อมูลไปใช้จะต้องรับผิดทั้งในทางอาญา หรือทางแพ่งแล้วแต่กรณี
“การฉ้อฉลประกันภัยส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้เอาประกันภัยผู้บริสุทธิ์และเป็นอันตรายต่อระบบประกันภัย โดยการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัยในครั้งนี้ เพื่อบังคับใช้บทบัญญัติในเรื่องการฉ้อฉลประกันภัยให้เกิดประสิทธิภาพและเป็นการป้องกันมิให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องตกเป็นเหยื่อของผู้ที่ฉวยโอกาส สำนักงาน คปภ. จะร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางอย่างเต็มที่ในการบังคับกฎหมายอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้กับประชาชนและระบบประกันภัยของไทยให้มีความมั่นคงบนความเชื่อมั่นของประชาชนที่ยั่งยืนต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย