KBank Private Banking ชูการลงทุนทางเลือก สู่ทางออกรับมือเศรษฐกิจถดถอย มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตอบความต้องการครอบคลุม

KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง) แนะกลยุทธ์ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน และกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุนในช่วงเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย เผยการลงทุนทางเลือกได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงในไทยเกือบ 30% มีแผนเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ด้านธนาคาร เตรียมเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนทางเลือกที่หลากหลายต่อเนื่อง เช่น กองทุนทางเลือก, หุ้นนอกตลาด, อสังหาริมทรัพย์นอกตลาด, กองทุนให้สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจ และหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ชูผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีโดดเด่น

ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ Senior Managing Director, Private Banking Business Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “ตลาดทุนตลอดทั้งปี 2565 มีความผันผวนต่อเนื่อง โดยผลตอบแทนในเกือบทุกสินทรัพย์หลักลดลงแรง และดัชนี MSCI World ปรับลดลงไปแล้วถึง 20% ยิ่งไปกว่านั้น ปีนี้ยังเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 30 ปีที่ผลตอบแทนในหุ้นและตราสารหนี้ปรับลดลงพร้อมกัน และเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองสินทรัพย์ปรับลดลงมากถึง 20% การกระจายการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ KBank Private Banking แนะนำแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความผันผวนและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้แก่พอร์ตการลงทุน”

ปัจจุบันสินทรัพย์ทางเลือกได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากนักลงทุน ผลการสำรวจล่าสุดโดย Lombard Odier (ลอมบาร์ด โอเดียร์) * ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา ความผันผวนของตลาดทุนซึ่งอาจนำไปสู่ผลตอบแทนที่เป็นลบเป็นความกังวลลำดับแรกของลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงในประเทศไทย โดยกว่า 50% ได้ปรับพอร์ตการลงทุนของตน โดยใช้บริการหรือรับคำแนะนำจากที่ปรึกษาด้านการลงทุน และเกือบ 30% มีแผนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้

ในฐานะที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน KBank Private Banking มุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมการลงทุนทางเลือกใหม่ๆ โดยให้ความสำคัญกับตัวเลือกที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไปของลูกค้า เช่น ความเสี่ยงและระยะเวลาในการลงทุน สินทรัพย์ทางเลือกที่แนะนำประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 6 ประเภท ดังนี้

  1. กองทุนทางเลือกที่กลยุทธ์ลงทุนยืดหยุ่น (Quantitative Hedge Fund) ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย และมุ่งสร้างผลตอบแทนเป็นบวกในทุกสภาพตลาด ที่ผ่านมา KBank Private Banking ได้นำเสนอกองทุน ASP-LEGACY-UI ซึ่งมีจุดเด่นคือกลยุทธ์ในการจับสัญญาณการซื้อขายรายวินาทีด้วยอัลกอริทึม ทำให้มีผลตอบแทนที่ปรับด้วยความเสี่ยงที่โดดเด่น
  2. กองทุนหุ้นนอกตลาดทั่วโลก (Global Private Equity Fund) เป็นผลิตภัณฑ์สินทรัพย์ทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีความผันผวนด้านราคาต่ำ สำหรับกองทุน K-GPE19A-UI และ K-GTPE20A-UI ที่ KBank Private Banking แนะนำแก่ลูกค้า สามารถสร้างผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนได้สูงถึง 47.83% ** และ 25.67% ** ตามลำดับ และล่าสุดกองทุน K-GPE22B-UI ซึ่งมีจุดเด่นคือการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมกว่า 50 ธุรกิจ โดยหลังจากการเสนอขายครั้งแรกในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ถือเป็นกองทุนหุ้นนอกตลาดทั่วโลกกองทุนแรกในประเทศไทยที่สามารถระดมเงินทุนได้หลักพันล้านบาท
  3. กองทุนอสังหาริมทรัพย์นอกตลาดทั่วโลก (Global Private Real Estate Fund) เป็นประเภทสินทรัพย์ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงจากโอกาสในการรับผลตอบแทนในรูปแบบค่าเช่าที่สม่ำเสมอ ที่ผ่านมา KBank Private Banking ได้นำเสนอกองทุน UGREF-UI ซึ่งลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรงกว่า 9,000 โครงการ และรายได้จากผู้เช่าที่มีคุณภาพกว่า 30,000 ราย และมีการกระจายการลงทุนทั้งกลุ่มโรงงาน รีเทล และที่อยู่อาศัย โดยกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปีที่ 8.33% ***
  4. กองทุนระดมเงินลงทุนเพื่อให้สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจ โดยไม่ผ่านสถาบันการเงิน (Private Credit Fund) เป็นการให้สินเชื่อโดยตรงแก่ภาคธุรกิจ เพื่อเสริมสภาพคล่อง โดยจุดเด่นในการให้สินเชื่อโดยตรงลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating rate) ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งจะให้ผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไป สำหรับ KBank Private Banking ได้ร่วมกับ Lombard Odier ในการแนะนำกองทุนประเภทนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเตรียมเสนอขายครั้งแรกในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
  5. อสังหาริมทรัพย์ไทยนอกตลาด (Thai Private Real Estate) เป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด หรือโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาด เช่น อาคารสำนักงาน ไฟฟ้า และโทรคมนาคม ในประเทศไทย
  6. หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงแบบ Knock-In Knock-Out (KIKO) เป็นสินทรัพย์ที่เพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในช่วงที่ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ และสามารถให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยรายเดือนที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถเลือกอ้างอิงผลตอบแทนได้ทั้งตะกร้าหุ้นไทย หรือหุ้นต่างประเทศ ที่ผ่านมา กองทุนที่ KBank Private Banking แนะนำสามารถให้ผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ยสูงถึง 11-13% ต่อปี

“ในสภาวะที่เงินเฟ้อได้กลายเป็นปัญหาระยะยาว และเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกจะมีความสำคัญยิ่งขึ้นในการเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มีตัวเลือกที่หลากหลาย เหมาะกับเป้าหมายของนักลงทุนที่แตกต่างกันไป โดย KBank Private Banking ยังคงมุ่งมั่นที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ทางเลือกการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ และสอดคล้องไปกับธีมการลงทุนแห่งอนาคต เพื่อเป็นทางรอดให้กับนักลงทุนต่อไป” ดร.ตรีพล กล่าวปิดท้าย

 

*รายงาน Volatility and uncertainty: A study of resilience and fortitude of APAC HNWIs โดย Lombard Odier

**ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565)

***ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565