รับมือฝุ่น PM2.5 และเชื้อโรคหน้าหนาว ปัจจัยเสี่ยงภูมิแพ้ แนะนำใช้เครื่องกรองอากาศ ดูแลอากาศให้สะอาดยิ่งขึ้น

เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศเย็นบริเวณชั้นบนของบรรยากาศจะกดตัวลง ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์การผกผันอุณหภูมิของชั้นบรรยากาศ (Inversion) อากาศร้อนที่อยู่บริเวณด้านล่างไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ หรือเรียกสภาพอากาศดังกล่าวว่า อากาศปิด ดังนั้น มลพิษต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงดังกล่าว เช่น ควัน ฝุ่นละออง PM2.5 และเชื้อโรค ก็จะเกิดการสะสมมากขึ้น อาจสูงถึงระดับที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ด้วยปัจจัยดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทำให้ประชากรจำนวนมากต้องพบเจอกับปัญหาด้านสุขภาพจากมลพิษทางอากาศในช่วงฤดูหนาวของประเทศ เนื่องจากการได้รับสัมผัสกับฝุ่นละอองในปริมาณมาก และอาจเกิดการสะสมในร่างกายโดยการเดินทางเข้าสู่ร่างกายผ่านทางระบบทางเดินหายใจ เกิดการสะสมในปอด และบางกรณีฝุ่นละอองขนาดเล็กยังอาจเข้าสู่กระแสเลือดที่ไหลเวียนทั่วร่างกาย ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ความจริงข้อมูลกี่ยวกับ ฝุ่น PM2.5 โดย ผศ.ดร.ประพัทธ์ พงษ์เกียรติกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้บอกไว้ว่า ฝุ่น PM2.5 เป็นมลพิษที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาทางเคมี ที่ส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือมนุษย์เป็นสำคัญ อาทิ ฝุ่น PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมลฑล เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ 35-50% การเผาไหม้ในพื้นที่โล่ง 20-40% และฝุ่นทุติยภูมิ (เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาในบรรยากาศ) 10-20% และ โรงงานอุตสาหกรรม 1-3% เมื่ออากาศเย็นก็จะเกิดการสะสมของฝุ่นในชั้นบรรยากาศได้ง่าย

องค์การอนามัยโลก ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า “มลพิษทางอากาศเป็นอันตรายคุกคามสุขภาพ เพราะมลพิษทำให้ปัญหาสุขภาพที่มีอยู่กำเริบขึ้น และเป็นเหตุก่อให้เกิดโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคหัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ หลอดเลือดในสมองตีบ เกิดภาวะลิ่มเลือดในสมอง โรคหอบหืดกำเริบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคมะเร็งปอด และอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งพบอัตราการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรมากกว่า 6 ล้านคนในแต่ละปี เนื่องจากมลพิษในอากาศทั่วโลกที่สูงเกินอัตรา

สถาบัน International Journal of Environment Research and Public Health (IJERPH) ได้เผยข้อมูลวิจัยทางสถิติ (มีนาคม 2564) ชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันและการทำกิจกรรมต่างๆ นั้น ผู้คนมากกว่า 80% มักใช้เวลาและใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหรือภายในอาคารเป็นหลัก โดยสามารถจำแนกค่าเฉลี่ยที่ 69% ที่พักอาศัย, 11% สถานที่ในร่มอื่นๆ, 8% ภายนอกอาคาร, 5% สำนักงานและโรงงาน, 5% ยานพาหนะ, 2% ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร ซึ่งปฎิเสธไม่ได้ว่าการดำรงชีวิตในแหล่งที่อยู่ภายในอาคารหรือในร่ม จำเป็นต้องมีสิ่งแวดล้อมที่ดีและเหมาะสมในการใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ เช่นกัน และหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ การได้รับอากาศที่สะอาด

นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการได้อธิบายถึงความสำคัญเกี่ยวกับคุณภาพอากาศภายในอาคาร หรือ Indoor air pollution หากภาวะที่อากาศภายในอาคารมีสิ่งเจือปนอยู่ในอากาศในปริมาณและระยะเวลาที่นานพอที่ส่งผลเสียต่อคุณภาพอากาศและทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของผู้อยู่อาศัยภายในอาคาร โดยปัจจัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้เกิดมลพิษภายในอาคาร ได้แก่ สภาวะแวดล้อมโดยรอบอาคาร ลักษณะโครงสร้างของอาคาร ระบบการไหลเวียนอากาศภายในอาคารและวัสดุก่อสร้างภายในอาคารที่ทำให้เกิดการสะสมสารมลพิษ เป็นต้น ซึ่งสารมลพิษที่เป็นอัตรายต่อการสูดดมและหายใจภายในอาคาร สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท อาทิ 1. สารมลพิษทางชีวภาพ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ไรฝุ่น สะเก็ดผิวหนังของสัตว์ ละอองเกสร เป็นต้น 2. สารมลพิษทางเคมี ได้แก่ แก๊สและไอระเหยต่าง ๆ สารฆ่าแมลง สารทำความสะอาด สารเคมีหกรั่วไหล กาวและสีทาผนัง การเผาไหม้ เป็นต้น และ 3. สารมลพิษที่เป็นอนุภาค ได้แก่ สารแขวนลอยในอากาศ ฝุ่น สิ่งสกปรก หรือสารอื่นๆ ที่อาจจะถูกดึงเข้าสู่อาคารจากภายนอก เป็นต้น ทั้งนี้ ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศภายในอาคารยังส่งผลเสียและก่อให้เกิดอันตรายต่อการหายใจและสุขภาพร่างกายได้ อาทิ หายใจติดขัดคัดจมูก เกิดการระคายเคืองตามผิวหนังต่างๆ เกิดการสะสมสารพิษในร่างกายในระยะยาว และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย

เพื่อการได้รับอากาศที่สะอาดและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอีกขั้น แอมเวย์ขอแนะนำ เครื่องกรองอากาศ แอทโมสเฟียร์ สกาย และ เครื่องกรองอากาศ แอทโมสเฟียร์ มินิ มาพร้อมกับดีไซน์กับออกแบบที่ดูทันสมัยที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ มอบการกรองอากาศสะอาดด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย อาทิ กรองสิ่งปนเปื้อนในอากาศได้ถึง 99.99%* และอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.0024 ไมครอน* ประสิทธิภาพในการลดสิ่งปนเปื้อนในอากาศที่ผ่านเข้าสู่ตัวเครื่องได้มากกว่า 300 ชนิด** เช่น ไวรัส แบคทีเรีย สปอร์เชื้อรา ยีสต์ ไรฝุ่น ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ ละอองเกสรดอกไม้ สารก่อภูมิแพ้ แร่ใยหิน และอื่นๆ ประสิทธิภาพในการลดสารเคมีได้มากถึง 13 ชนิด*** อัตราการกรองอากาศของเครื่องกรองอากาศ Atmosphere Sky สะอาดสูง 300 ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที สำหรับห้องขนาด 43 ตารางเมตร อัตราการกรองอากาศของเครื่องกรองอากาศ Atmosphere Mini สะอาดสูง 130 ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที สำหรับห้องขนาด 19 ตารางเมตร ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ เช่น กลิ่นสัตว์เลี้ยง กลิ่นจากการประกอบอาหาร เป็นต้น ติดตั้งระบบ RFID เพื่อบันทึกการทำงานและเตือนการเปลี่ยนแผ่นกรองได้อย่างแม่นยำ และสามารถควบคุมการทำงานจากทุกหนแห่งด้วยเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สาย (Wi-Fi) ผ่านแอปพลิเคชัน Atmosphere Connect

มั่นใจด้วยการรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับสากลจากสถาบันชั้นนำ เครื่องกรองอากาศทั้ง 2 รุ่น ได้รับการรับรองมาตรฐานในการกรองสารก่อให้เกิดภูมิแพ้จาก Allergy UK ว่าสามารถลดหรือกรองสารก่อภูมิแพ้ได้ เหมาะที่จะใช้กับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศ ผ่านการรับรองจากสมาคมผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือ AHAM นอกจากนี้ยังได้รับการรับรอง Energy Star หรือ มาตรฐานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยความร่วมมือระหว่างสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ U.S. EPA และกระทรวงพลังงานของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ แอทโมสเฟียร์ สกาย ยังได้รับมาตรฐาน ECARF จากยุโรปอีกด้วย

เครื่องกรองอากาศ แอทโมสเฟียร์ สกาย และ เครื่องกรองอากาศ แอทโมสเฟียร์ มินิ รับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ รวมทั้งรับประกันความพอใจ 90 วัน สามารถสั่งซื้อสินค้าได้จากนักธุรกิจแอมเวย์หรือซื้อผ่านเว็บไซต์ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.amway.co.th/p/atmosphere-sky (เครื่องกรองอากาศแอทโมสเฟียร์ สกาย) และ https://www.amway.co.th/p/atmosphere-mini (เครื่องกรองอากาศแอทโมสเฟียร์ มินิ)

* ทดสอบโดยห้องทดลองอิสระตามมาตรฐาน EN1822 European HEPA ผลทดสอบแบบ Single Pass Efficiency

** ทดสอบโดยห้องทดลองอิสระด้วยวิธีการประเมินด้วยแบบจำลองคอมพิวเตอร์

*** ทดสอบโดยปล่อยสิ่งปนเปื้อนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าสู่เครื่องกรองอากาศในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม