จากวิสัยทัศน์ “สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี” การเคหะแห่งชาติ เดินหน้าสานต่อภารกิจสำคัญ ในการจัดหาที่อยู่อาศัยให้คนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและครัวเรือนเปราะบาง เพื่อส่งต่อความสุขอย่างยั่งยืนให้กับคนที่ต้องการมีบ้าน หนึ่งในโครงการสำคัญที่มีการขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563 คือ โครงการบ้านเคหะสุขประชา การจัดสร้างที่อยู่อาศัยประเภทเช่าให้กับผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง ด้วยค่าเช่าถูกประมาณ 1,500 – 3,000 บาทต่อเดือน พร้อมส่งเสริม “เศรษฐกิจสุขประชา” โดยนำร่องใน 2 พื้นที่ คือ ฉลองกรุง และร่มเกล้า รวม 572 หน่วย
ความคืบหน้าล่าสุด การเคหะแห่งชาติได้เปิดให้ผู้มีสิทธิ์เช่าได้เข้ามาทำสัญญาเช่าที่โครงการ โดยกำหนดวันทำสัญญา โครงการบ้านเคหะสุขประชา พื้นที่ร่มเกล้า ตั้งแต่วันที่ 16 – 19 ธันวาคม 2565 เวลา 9.00 – 17.00 น. และโครงการบ้านเคหะสุขประชา พื้นที่ฉลองกรุง ตั้งแต่วันที่ 22 -25 ธันวาคม 2565 เวลา 9.00 – 17.00 น. ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติ เชิญผู้ได้สิทธิ์ (ตัวจริง) เข้ามาทำสัญญาในวันและเวลาที่กำหนดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ www.nha.co.th
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้ได้สิทธิ์เช่าในโครงการนี้มุ่งเป้าไปที่ครัวเรือนเปราะบาง ได้แก่ แม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อเลี้ยงเดี่ยว คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ตลอดจนข้าราชการเกษียณ ข้าราชการชั้นผู้น้อย พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างของรัฐ และประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยให้สิทธิ์อยู่อาศัยโครงการบ้านสุขประชาครอบครัวละ 1 หน่วย โดยไม่สามารถโอนสิทธิ์การจองและสิทธิ์การเช่าให้กับผู้อื่น รวมถึงไม่อนุญาตให้เช่าช่วง
“สิ่งสำคัญคือผู้มีสิทธิ์เช่าโครงการบ้านเคหะสุขประชา ต้องเข้าร่วมฝึกอบรมอาชีพเศรษฐกิจสุขประชา กรณีไม่สามารถเข้าร่วมฝึกอบรมได้ และไม่มีบุคคลในครอบครัวที่ว่างงานที่สามารถเข้าร่วมฝึกอบรมได้ จะถือว่าสละสิทธิ์ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการที่ต้องการสร้างบ้านพร้อมอาชีพ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนในระยะยาว” นายทวีพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในวันทำสัญญาเช่า ให้ผู้มีสิทธิ์เช่าเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ 1. เอกสารหรือหลักฐานที่ใช้ในการทำสัญญาประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน (ตัวจริง) ใบเดียว ไม่ต้องใช้สำเนาเอกสารใดๆ สะดวกรวดเร็ว เพื่อใช้ยืนยันตัวบุคคล และใช้เป็นข้อมูลในการทำสัญญา ตามข้อมูลทะเบียนราษฎร์ 2. หลักฐานแสดงรายได้ (ต้องไม่เกิน 30,000 บาทอต่อครัวเรือน) 3. หนังสือมอบอำนาจ สำเนาบัตรประชาชนพร้อมรับรองสำเนาของผู้มีอำนาจ และบัตรประชาชน (ตัวจริง) ของผู้รับมอบอำนาจ เนื่องจากผู้ได้สิทธิ์ไม่ได้มาแสดงตัวตนในวันจัดทำสัญญา และ 4. สำเนาเปลี่ยนชื่อ-สกุล (กรณีชื่อที่ใช้ลงทะเบียนในระบบไม่ตรงกับชื่อที่ใช้ปัจจุบัน)
“โครงการบ้านเคหะสุขประชา เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยลดภาระกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และครัวเรือนเปราะบาง ยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนมีรายได้ลดลง โอกาสที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง หรือซื้อบ้านยากขึ้น โครงการนี้จึงเข้ามาตอบโจทย์ดังกล่าว กับคอนเซ็ปต์บ้านเช่าราคาถูก เริ่มต้นเพียง 1,500 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีรายได้น้อยและครัวเรือนเปราะบาง ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของการเคหะแห่งชาติ ได้อย่างแท้จริง” นายทวีพงษ์ กล่าว