บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายปันผลกองทุนในประเทศ “หุ้นไทย-กองผสม” รวมมูลค่า 13.14 ล้านบาท
นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายปันผลกองทุนที่ลงทุนในประเทศภายใต้การบริหารจัดการ สำหรับผลการดำเนินงานรอบระยะเวลา 6 เดือน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2565 -31 มกราคม 2566 ประกอบด้วย กองทุนเปิดธนชาตเพิ่มพูนทรัพย์ปันผล (T-PPSD) ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นไทย ในอัตรา 0.11 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดธนชาตทุนทวี1 (T-TTW1) กองทุนรวมผสม ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนโดยมีกำหนดจ่ายปันผลพร้อมกันในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลรวม 13.14 ล้านบาท
สำหรับกองทุนเปิดธนชาตเพิ่มพูนทรัพย์ปันผล (T-PPSD) มีนโยบายลงทุนในตราสารทุน โดยเฉลี่ยในรอบระยะเวลาบัญชีประจำปี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ของกิจการที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี และคาดว่าจะเจริญเติบโตในอัตราสูง และให้ความสำคัญกับการลงทุนในระยะยาวและระยะปานกลาง โดยลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตลาดทุน ตลาดเงิน และภาวะเศรษฐกิจ
ส่วนกองทุนเปิดธนชาตทุนทวี1 (T-TTW1) มีนโยบายการลงทุนแบบผสมโดยกองทุนจะลงทุนในตราสารทุนที่เป็นหลักทรัพย์ของกิจการที่มีความมั่นคงหรือธุรกิจที่มีศักยภาพที่จะเติบโตสูง หรือมีประวัติการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ (Dividend Stocks) รวมทั้งการลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง โดยผู้จัดการกองทุนจะพิจารณาสัดส่วนการลงทุนตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละขณะ
นอกจากนี้ บลจ.อีสท์สปริง ยังได้มีการจ่ายเงินปันผลกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศภายใต้การบริหารจัดการ จำนวน 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดทหารไทย โกลบอล เรียล รีเทิร์น (TMBGRR) สำหรับผลการดำเนินงานรอบระยะเวลา 3 เดือน ระหว่าง 1 พฤศจิกายน 2565 – 31 มกราคม 2566 ในอัตรา 0.0985 บาทต่อหน่วย เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยกองทุนดังกล่าว เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (Master Fund) คือ กองทุน GMO Global Real Return UCITS) Fund ในหน่วยลงทุนชนิด (Class) Class A USD ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวให้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (OECD G7) ประกอบด้วยประเทศแคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยการลงทุนในหลักทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลกทั้งตราสารทุน, ตราสารหนี้, ตราสารตลาดเงิน, อัตราเลกเปลี่ยน, ตราสารที่เกี่ยวข้องกับดัชนีอ้างอิงสินค้าโภคภัณฑ์, REITs และตราสารอนุพันธ์ ซึ่งกองทุนนี้เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน ดังนั้น ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ขายก่อนการลงทุน
ทั้งนี้ 3 กองทุนดังกล่าวมีการจ่ายปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือ กองทุนเปิด T-PPSD ปี 2561 อยู่ที่ 0.50 บาท ปี 2564 อยู่ที่ 0.65 บาท และเมื่อรวมจ่ายปันผลปีนี้อีก 0.11 บาท รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้น 1.26 บาทต่อหน่วย ส่วนกองทุนเปิด T-TTW1 ปี 2561 อยู่ที่ 0.05 บาท ปี 2562 อยู่ที่ 0.25 บาท เมื่อรวมจ่ายปันผลปีนี้อีก 0.30 บาท รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้น 0.60 บาทต่อหน่วย สุดท้ายกองทุนเปิด TMBGRR ปี 2562 อยู่ที่ 0.20 บาท ปี 2563 อยู่ที่ 0.08 บาท ปี 2564 อยู่ที่ 0.16 บาท เมื่อรวมจ่ายปันผลปีนี้อีก 0.0985 บาท รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้น 0.5385 บาทต่อหน่วย
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัทฯ หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต