ฮุนได บริษัทแม่จากสาธารณรัฐเกาหลี ประกาศเดินหน้าธุรกิจในไทยเต็มรูปแบบ ภายใต้ชื่อ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนธุรกิจก้าวสู่ผู้นำยานยนต์และนวัตกรรม ด้านโมบิลิตี้ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ยกขบวนยานยนต์สุดล้ำมาให้ยลโฉมพร้อมกันครั้งแรกในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ 2023 นำโดยดาวเด่นสตาร์เกเซอร์ที่เปิดขายครั้งแรกในไทย สตาร์เรีย พร้อมจัดแสดง ไอออนิค 5 ไอออนิค 6 และแพลตฟอร์ม E-GMP และหุ่นยนต์ Robotic โดยมั่นใจว่าทุกผลิตภัณฑ์ที่เตรียมบุกตลาดปีนี้จะสามารถตอบโจทย์โซลูชันด้านโมบิลิตี้ให้กับผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน
นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับในปี 2566 ฮุนได มอเตอร์ บริษัทแม่จากประเทศสาธารณรัฐเกาหลี เดินหน้ายกระดับความพร้อมนำทีมจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศไทยภายใต้ชื่อ “บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด” เป็นที่เรียบร้อย เตรียมขับเคลื่อนธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบครอบคลุมทั้งในด้านการขาย การตลาด การบริการหลังการขายและเครือข่ายผู้จำหน่าย เนื่องจากฮุนไดมองเห็นโอกาสสำคัญของการเติบโตหลากหลายด้านในประเทศไทยแม้ว่าปัจจุบันจะมีการแข่งขันจากประเทศต่าง ๆ ที่เข้ามาทำตลาดอย่างดุเดือด โดยความโดดเด่นของฮุนได โมบิลิตี้ คือการมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับคุณภาพและพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนทุกประเภท ไม่เพียงแค่ด้านยานยนต์ แต่บริษัทฯ ยังตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพด้านผู้นำนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่านวัตกรรมของฮุนไดซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับโลก จะสามารถช่วยยกระดับเศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์คนไทยไปสู่โลกแห่งอนาคต พร้อมสร้างประสบการณ์แก่ผู้ใช้งานด้วยโซลูชันด้านโมบิลิตี้ที่สอดรับกับความต้องการของผู้คนได้เหนือกว่าแบรนด์คู่แข่ง โดยเฉพาะจุดเด่นที่สำคัญทั้งเรื่องความปลอดภัย ความสะดวกสบาย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นอย่างยั่งยืนในระยะยาว
“วิสัยทัศน์ของบริษัทคือ การเป็นแบรนด์พารทเนอร์ในวิถีชีวิตของผู้คน โดยฉีกภาพจำเดิมๆ จากการเป็นแบรนด์จำหน่ายรถยนต์ สู่การเป็นผู้นำเทคโนโลยี และเป็นผู้เล่นสำคัญด้านการขับเคลื่อนนวัตกรรมเคลื่อนที่ด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อสร้างสรรค์ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ดีที่สุดระดับโลก สะท้อนถึงทิศทางของฮุนไดในฐานะแบรนด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่ความยั่งยืน”
สตาร์เกเซอร์ – รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก (มินิเอ็มพีวี) ที่นำมาทำตลาดครั้งแรกในประเทศไทย หลังจากนำมาให้ยลโฉมตัวจริงเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และสร้างความคึกคักให้ตลาดมินิเอ็มพีวี ด้วยรูปทรงที่ปราดเปรียวแต่เต็มไปด้วยความสบายในพื้นที่ห้องโดยสาร ตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยจำนวนที่นั่ง 7 ที่นั่ง และความพิเศษสุด มาในรุ่น ท็อป เป็นเบาะที่นั่ง 3 แถว 6 ที่ โดยเบาะแถวที่ 2 มาแบบ Captain Seat ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เกียร์ CVT ระบบส่งกำลัง IVT ให้กำลังสูงสุด115 แรงม้า แรงต้านอากาศเพียง 0.32 Cd ประหยัดน้ำมัน ขับขี่สนุกได้ดั่งใจถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ Normal, Eco, Sport และ Smart พร้อมโปรโมชัน ได้แก่ ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี, รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม., บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนาน 5 ปี, ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 2 ปี หรือ 40,000 กม., ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% เมื่อดาวน์ 25% หรือ 30% และผ่อนชำระ 48 เดือน, ผ่อนชำระเงินดาวน์นาน 6 เดือน โดยไม่มีดอกเบี้ย
สตาร์เรีย – รถอเนกประสงค์ (เอ็มพีวี) 11 ที่นั่ง มาพร้อมกับความสบายและปลอดภัยที่พร้อมสรรพ ชูจุดเด่นด้วยการดีไซน์ห้องโดยสารให้มีบรรยากาศเสมือนห้องรับรองระดับเฟิร์สคลาส ซึ่งเป็นขั้นตอนการออกแบบจากภายในสู่ภายนอก หรือ Inside-Out ที่เน้นการใช้งานและการปรับใช้พื้นที่ของห้องโดยสารเป็นหลัก ภายนอกโดดเด่นด้วยรูปทรงที่โปร่งสบายและแข็งเกร่ง บานกระจกที่กว้างตัดขอบด้วยไฟท้ายแนวตั้ง พร้อมติดตั้งไฟแบบ Parametric Pixel ที่เป็นเอกลักษณ์ของฮุนได กันชนท้ายตั้งอยู่ในระดับต่ำช่วยให้ขนสัมภาระเข้า-ออก ได้ง่ายมากขึ้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มอบกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า พร้อมโปรโมชั่นภายในงาน ได้แก่ ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี, รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม., บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนาน 5 ปี
ไอออนิค 6 – รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% แบบซีดาน ใช้ platform แบบ E-GMP มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง โดดเด่นด้วยการออกแบบภายในให้โอบอุ้นเสมือนรังไหม วัสดุภายในรถผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รูปลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบให้มีค่าอากาศพลศาสตร์เพียง 0.21 และบริเวณกระจังหน้าที่ต่ำ การลดช่องว่างระหว่างซุ้มล้อ ช่วยให้ลู่ลมได้มาก และเสริมสมรรถนะให้ขับขี่ได้ไกลถึง 614 กิโลเมตรต่อหนึ่งรอบการชาร์จ
แพลตฟอร์ม E-GMP – โครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนามาเพื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของฮุนไดโดยเฉพาะ มอบสมรรถนะการขับขี่ทีดีเยี่ยม ให้ระยะการขับขี่เพิ่มมากขึ้น ให้ความปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งยังเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสารและในส่วนของห้องสัมภาระอีกด้วย เหมาะกับรถยนต์ทุกเซกเมนต์ไม่ว่าจะเป็นรถซีดาน เอสยูวี และซียูวีหรือครอสโอเวอร์ การออกแบบที่ใช้พื้นที่น้อย แต่เต็มสมรรถนะด้วยความจุของแบตเตอรี่ วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 480 กิโลเมตรต่อหนึ่งรอบการชาร์จ และด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของฮุนได แพลตฟอร์ม E-GMP สามารถชาร์จแบบด่วนได้เต็มความจุภายในเวลาเพียง 18 นาที
“การเข้ามาดำเนินงานภายใต้ ฮุนได โมบิลิตี้ ของบริษัทแม่ นับเป็นก้าวสำคัญของฮุนไดที่จะแสดงศักยภาพความพร้อมและตอกย้ำความเชื่อมั่นในการขยายธุรกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคชาวไทยอย่างแน่นอน โดยฮุนได โมบิลิตี้ พร้อมเติบโตไปกับลูกค้าทุกคนในฐานะผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการขับเคลื่อนในรูปแบบโมบิลิตี้ครอบคลุมทุกมิติเพื่อลูกค้าคนไทยเสมือนเป็นเพื่อนที่รู้ใจในทุกเส้นทาง“ นายเจ กิว จอง กล่าวปิดท้าย