สถาบันพระปกเกล้า และ กฟผ. ผนึกกำลังสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เปิดนิทรรศการเคลื่อนที่ “มองสยาม ตามรอยพระปกเกล้า” ชูพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจในการพัฒนาประเทศของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 โดยเฉพาะด้านการเมืองการปกครอง หวังส่งเสริมให้คนไทยเห็นคุณค่าประวัติศาสตร์ สร้างจิตสำนึกความจงรักภักดีและความเป็นพลเมืองที่ดีเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ระหว่างวันที่ 4 เมษายน – 31 กรกฎาคม 2566 ณ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง จ.นนทบุรี
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 สถาบันพระปกเกล้า ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดนิทรรศการเคลื่อนที่ “มองสยาม ตามรอยพระปกเกล้า”ณ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง อ.บางกรวยจ.นนทบุรี โดยมี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และ นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง รองผู้ว่าการอาวุโส กฟผ. พร้อมด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเครือข่ายพันธมิตรด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ สถาบันการศึกษา ชุมชนบางกรวย และประชาชนที่สนใจร่วมเปิดนิทรรศการ นอกจากนี้ภายในงานมีการบรรยายพิเศษถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ “มองสยาม ตามรอยพระปกเกล้า” โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า การเผยแพร่พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เป็นภารกิจสำคัญประการหนึ่งของสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งนิทรรศการเคลื่อนที่ฯ นอกจากจะเป็นเชิดชูเกียรติทั้งสองพระองค์ท่านแล้ว ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ ของพระองค์ท่านที่มีคุณูปการต่อประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะด้านการเมืองการปกครองที่นำไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พร้อมสร้างสำนึกพลเมืองให้กับเด็ก เยาวชน ชาวนนทบุรี และจังหวัดใกล้เคียงได้รู้เท่าทัน รู้สิทธิและหน้าที่ของตนเอง เพื่อระบอบการเมืองที่มั่นคงและยั่งยืนอย่างแท้จริง
นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง รองผู้ว่าการอาวุโส กฟผ. กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างสถาบันพระปกเกล้า และ กฟผ. ครั้งนี้ เป็นการผนึกกำลังสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ระหว่างสองหน่วยงาน รวมทั้งระลึกถึงพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 7 ที่เกี่ยวข้องกับ กฟผ. ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญของถ่านหินลิกไนต์ที่เหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง ที่มีปริมาณมาก จึงทรงมีพระบรมราชโองการให้สงวนแหล่งถ่านหินไว้ใช้ในราชการเท่านั้น จนปัจจุบันเป็นเชื้อเพลิงสำคัญที่ กฟผ. นำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าและสร้างการเติบโตให้เศรษฐกิจของประเทศ