- เชื่อมสองโลกการลงทุนแบบไร้รอยต่อ พร้อมจุดแข็งด้านการบริการแบบ Human Touch
- ชูไฮไลท์หลักสูตร “The 45 Academia” เตรียมความพร้อมกลุ่มทายาทคนรุ่นใหม่สู่ Leader of Tomorrow
บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer) บริษัทร่วมทุนระหว่าง “ธนาคารไทยพาณิชย์” และ “จูเลียส แบร์” (Julius Baer) ชูกลยุทธ์ “The New Wave of Wealth” เดินหน้าสู่คลื่นลูกใหม่ของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูงปี 2566 ผสานความเชี่ยวชาญของการลงทุนทั้งในประเทศ (Onshore) และต่างประเทศ (Offshore) เข้าไว้ด้วยกันแบบไร้รอยต่อด้วย Open Product Platform ที่มีความหลากหลายซึ่งถือเป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทยที่สามารถดูแลและให้บริการบริหารความมั่งคั่งระดับสูงให้กับลูกค้าแบบครบวงจร ด้วยการให้บริการแบบ “Human Touch” ของผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือ Relationship Manager (RM) ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนส่วนบุคคลแบบมืออาชีพมาตรฐานสากลที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าชาวไทยอย่างลึกซึ้ง มุ่งยกระดับประสบการณ์ของลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่งระดับสูงให้สามารถลงทุนทั่วโลกได้อย่างไร้พรมแดน พร้อมเปิด “The 45 Academia” หลักสูตรสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มุ่งเน้นเตรียมความพร้อมกลุ่มทายาทคนรุ่นใหม่ (Next Generation) สู่ผู้นำแห่งอนาคต (Leader of Tomorrow) เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างยั่งยืน ตั้งเป้าภายใน 3 ปี ขึ้นแท่นผู้นำ International Private Banking ที่มีความเป็นเลิศด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร ให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (UHNWIs และ HNWIs) ของเมืองไทย
จูเลียส แบร์ ในฐานะผู้นําตลาดธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับโซลูชันด้านการวางแผนความมั่งคั่งที่มีความซับซ้อน (Wealth Planning) เนื่องจากหลายครอบครัวหันมาใช้กลยุทธ์ที่มีโครงสร้างอย่างมืออาชีพสำหรับวางแผนอนาคตทางการเงินของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เรายังมีความมุ่งมั่นในการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบด้วยการผสมผสานหลักเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล (ESG) เข้ากับข้อเสนอด้านการลงทุนส่วนใหญ่ของเรา และด้วยการให้บริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล พร้อมปรับเปลี่ยนให้ก้าวทันต่อความต้องการของลูกค้าตลอดเวลา ทำให้เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถเติบโตแบบมีนัยสำคัญ และประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในธุรกิจเวลธ์แมเนจเม้นท์”
ในปี 2566 เพื่อเดินหน้าสู่คลื่นลูกใหม่ของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูง ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ นำเอา กลยุทธ์ “The New Wave of Wealth” มาใช้เป็นแกนหลักในการดำเนินธุรกิจ ตอกย้ำจุดยืนของการเป็นผู้นำด้านบริหารความมั่งคั่ง ซึ่งครอบคลุมและครบวงจรที่สุด เพื่อเจาะกลุ่มทายาทคนรุ่นใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 3 แกนสำคัญได้แก่
- Onshore & Offshore Investment: ลูกค้าไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ สามารถลงทุนทั้งในประเทศ (Onshore) และต่างประเทศ (Offshore) ซึ่งถือเป็น House แรกและที่เดียวในประเทศไทยที่สามารถดูแลและให้บริการแบบครบวงจร
- Human Touch: บริการที่เข้าใจกลุ่มลูกค้าคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือ Relationship Manager (RM) คนไทยที่มีความรู้ ความเข้าใจตลาดเมืองไทย เข้าใจความต้องการของลูกค้าทั้งในเชิงวัฒนธรรม วิถีชีวิตและแนวคิดของคนไทยด้วยกัน พร้อมที่จะให้บริการได้ทันทีด้วยการให้บริการแบบ Human Touch โดยมีเทคโนโลยีมาสนับสนุน (Human Touch with Digital Support)
- Seamless Access: การให้บริการผ่าน Open Product Platform ด้วยผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย และการวางแผนการส่งต่อความมั่งคั่ง (Wealth Planning) รวมทั้งบริการที่ดีที่สุด เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนได้อย่างอิสระ ทำให้สามารถกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด ตรงกับความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล (Tailored made) และเข้าถึงการลงทุนทั่วโลกได้อย่างแท้จริง
“นอกจากนี้ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ ยังเตรียมเปิดหลักสูตร “The 45 Academia” เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มทายาทนักธุรกิจและกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation) พัฒนาศักยภาพของตนเอง และเตรียมความพร้อมการสืบทอดธุรกิจให้อย่างยั่งยืน ขึ้นแท่นผู้นำแห่งอนาคต (Leader of Tomorrow) เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งภายใต้ว่ากลยุทธ์ “The New Wave of Wealth” คลื่นลูกใหม่ของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูง ด้วยการเชื่อมโลกแห่งการลงทุนทั้ง On-Shore และ Off-Shore เข้าไว้ด้วยกันแบบไร้รอยต่อ ผสานกับการดูแลและให้บริการด้านการลงทุนแบบมืออาชีพ คุณภาพของบุคลากรที่ได้มาตรฐานสากล และด้วยแพลตฟอร์มการลงทุนของจูเลียส แบร์ และความเข้าใจในตลาดไทยของไทยพาณิชย์จะสามารถทำให้ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ สร้างการเติบโต และผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับกลุ่มลูกค้า UHNWIs และ HNWIs ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเราตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะสามารถขึ้นแท่นผู้นำ International Private Banking ที่มีความเป็นเลิศด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร ให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (UHNWIs และ HNWIs) ของเมืองไทย” นางสาวลลิตภัทร กล่าวทิ้งท้าย