เอสซีจี ชูสินค้านวัตกรรม กรีนชอยส์ เม็ดพลาสติก-กระเบื้อง ยอดขายโตในอาเซียน ตอบเมกะเทรนด์รักษ์โลก
เอสซีจีเผยยอดขายสินค้านวัตกรรมรักษ์โลกในกลุ่มตลาดอาเซียนโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนวัตกรรมพลาสติก-กระเบื้องตกแต่งผิว ผลจากการพัฒนาสินค้าตอบรับเมกะเทรนด์โลก “ใส่ใจสิ่งแวดล้อม – สุขอนามัย”
นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Service Solution Business เอสซีจี กล่าวว่า “จากเมกะเทรนด์ที่ผู้บริโภคทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาโลกร้อน ขยะ มลภาวะทางอากาศ ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขอนามัยที่ดีมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น โดยในไตรมาส 1 ของปี 2566 สินค้านวัตกรรมกรีน ภายใต้ฉลาก Green Choice จำนวน 252 รายการ มียอดขาย 68,992 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากไตรมาสก่อน คิดเป็นร้อยละ 53.6 จากยอดขายสินค้ารวม นับว่าผู้บริโภคอาเซียนซึ่งเป็นตลาดหลักของเอสซีจี ให้การตอบรับสินค้านวัตกรรมรักษ์โลกเป็นอย่างดี”
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ 3 อันดับที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดอาเซียน ได้แก่ 1.นวัตกรรมเม็ดพลาสติกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม LDPE สำหรับงานเคลือบลามิเนตความเร็วสูง ช่วยลดระยะเวลาและพลังงานในการผลิต ส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2.SCGC GREEN POLYMER เม็ดพลาสติก HDPE สำหรับขึ้นรูปฟิล์ม ซึ่งสามารถผสมเม็ดพลาสติกรีไซเคิลได้มากขึ้น แต่ยังคงความแข็งแรงของฟิล์มเท่าเดิม และ 3. นวัตกรรมวัสดุตกแต่งผิวปลอดภัย กระเบื้องเซรามิคปูพื้น บุผนัง และกระเบื้องพอร์ซเลน (ภายใต้แบรนด์ PRIME จัดจำหน่ายในประเทศเวียดนาม) เป็นสินค้าที่เป็นมิตรต่อสุขภาพอนามัย มีส่วนประกอบสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ต่ำกว่า 0.5 mg/m3 จึงปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย
Head of Service Solution Business เอสซีจี ยังกล่าวว่า ทุกกลุ่มธุรกิจของเอสซีจีพร้อมเร่งเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมกรีนต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น ภายใต้เป้าหมายที่จะเพิ่่มสัดส่วนยอดขายสินค้า Green Choice จากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 67 ภายในปี 2573 ตามแนวทาง ESG 4 Plus โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 (Net Zero ปี 2050) เพื่ออนาคตของโลกและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ส่งมอบโลกที่ยั่งยืนให้คนรุ่นต่อไป
สำหรับฉลาก Green Choice เป็นฉลากที่ให้การรับรองผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี ที่ให้การรับรองสินค้าของเอสซีจี ครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลักของเอสซีจี ได้แก่ 1.ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ที่สามารถเลือกสร้างบ้าน อาคาร และงานโครงสร้างด้วยนวัตกรรมรักษ์โลก เช่น ปูนงานโครงสร้าง เอสซีจี สูตรไฮบริด ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตได้ถึง 80,000 ตันเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 8 ล้านต้น 2.ธุรกิจเคมิคอลส์ (SCGC) มีนวัตกรรมและโซลูชันรักษ์โลกที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ครอบคลุมการผลิตเคมีภัณฑ์ ขั้นต้นไปจนถึงขั้นปลาย เช่น เม็ดพลาสติกประเภทพอลิเอทิลีน พอลิโพรพิลีน และพอลิไวนิลคลอไรด์ และ 3. ธุรกิจแพคเกจจิ้ง (SCGP) มีนวัตกรรมรักษ์โลกที่หลากหลาย เช่น บรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัยเฟสท์ช้อยส์ที่ผลิตจากกระดาษสัมผัสอาหารเคลือบด้วยพลาสติก PE ที่ใส่อาหารร้อนได้ รวมทั้งกระดาษถ่ายเอกสารที่ใช้เยื่อจากป่าปลูก และ Eco Fiber
โดยผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าทุกผลิตภัณฑ์ บริการ โซลูชันที่ได้รับรองฉลากนี้ ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์ที่กำหนดอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ใช้พลังงานหมุนเวียน ลดการใช้พลังงาน ประหยัดทรัพยากรตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน มีอายุการใช้งานยาวนาน รวมถึงส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี