“โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง” ที่ “การเคหะแห่งชาติ” มุ่งมั่นขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง มีความคืบหน้าจนสามารถสร้างอาคารแปลง G และย้ายผู้อยู่อาศัยเดิมเข้าอยู่ ภายใต้การรับฟังความคิดเห็นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมทุกขั้นตอนตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการดำเนินงาน และสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน รวมทั้งให้ความสำคัญต่อการถอดบทเรียนจากอดีตมาปรับใช้ในปัจจุบัน เพื่อมุ่งหน้าสู่อนาคต ที่มุ่งหวังให้ “เคหะชุมชนดินแดง” เป็น “Smart Community” ให้สำเร็จ
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าของ “โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง” ว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 – 16 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้จัดโครงการอบรมติดตามผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาชุมชนดินแดง พ.ศ.2563-2567 หลักสูตร “เหลียวหลัง แลหน้า การพัฒนาชุมชนดินแดง” ณ อิงธาร รีสอร์ท จังหวัดนครนายก โดยมี นายเทพฤทธิ์ ฤทธิณรงค์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ พร้อมด้วยนายสุรพล อริยบัญโญทัย ผู้อำนวยการฝ่ายฟื้นฟูและพัฒนาเมือง ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะกรรมการชุมชน ผู้อยู่อาศัยในโครงการเคหะชุมชนดินแดง 1 – 2 และโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 (อาคารแปลง G) เข้าร่วมกิจกรรม
“โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อให้คณะกรรมการชุมชน ผู้นำชุมชน และผู้อยู่อาศัยได้ร่วมกันสะท้อนผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาชุมชนดินแดง โดยมีส่วนร่วมในการคิด ตัดสินใจ และกำหนดทิศทางการพัฒนาชุมชนของตนเองแบบบูรณาการตามบริบทของชุมชนที่เปลี่ยนแปลง สอดคล้องกับทรัพยากร และรองรับวิถีชีวิตในอนาคต ซึ่งต้องคำนึงถึงศักยภาพ ทรัพยากร วิถีชีวิต วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมในชุมชนเป็นหลัก รวมถึงการแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของชุมชนทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน เป็น Smart Community ที่สามารถเป็นชุมชนต้นแบบให้กับชุมชนอื่น ๆ ทั้งยังได้ร่วมกันกำหนดอนาคตและกิจกรรมพัฒนาชุมชนเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนพัฒนาชุมชน (พ.ศ. 2568 – 2572) ต่อไปด้วย” ผู้ว่าการการเคหะฯ กล่าวย้ำ
“ขอบคุณการเคหะแห่งชาติที่จัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็น เปิดเวทีให้ลูกบ้านเพื่อมุ่งสู่การเป็น Smart Community สิ่งต่าง ๆ ที่ทำวันนี้ จำเป็นและมีประโยชน์มาก ทั้งการอบรมให้ความรู้จากวิทยากร เป็นการร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันได้ ลดความขัดแย้งภายในชุมชน และสร้างโอกาสให้กับชุมชนของเราได้เป็นชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไปครับ” นายศุภชาติกล่าว