ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและการมีส่วนร่วมด้านการประกันภัย ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากหลายภาคส่วน โดยสำนักงาน คปภ. ได้รายงานผลการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านประกันภัย ระหว่างเดือนมกราคม-สิงหาคม 2566 โดยที่ประชุมได้กล่าวชื่นชมการดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคด้านการประกันภัยว่าครอบคลุมในหลายมิติและมีผลงานเป็นรูปธรรม จากนั้นที่ประชุมได้ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
ประเด็นแรก ความเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อลดปัญหาข้อพิพาทเรื่องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ โดยที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกับกรอบแนวทางการกำหนดจำนวนวันซ่อมรถยนต์เพื่อนำไปพิจารณาคำนวณค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ซึ่งเป็นกรอบหลักเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำที่จะนำไปใช้แก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างผู้เสียหายกับบริษัทประกันภัยเกี่ยวกับจำนวนวันซ่อมรถยนต์ โดยที่ผ่านมาปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ สำนักงาน คปภ. ได้ออกคำสั่งนายทะเบียนกำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถแล้ว ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาข้อพิพาทไปได้ในส่วนหนึ่ง ดังนั้น กรอบแนวทางการกำหนดจำนวนวันซ่อมรถยนต์ดังกล่าวข้างต้น จะเป็นประโยชน์ในการนำไปแก้ไขปัญหาข้อพิพาทในประเด็นดังกล่าวได้ทั้งระบบ
ทั้งนี้ หากคู่พิพาทมีข้อเท็จจริงอื่น ๆ ที่อาจจะส่งผลต่อระยะเวลาการจัดซ่อมรถยนต์ที่แตกต่างไปจากกรอบแนวทางดังกล่าว คู่กรณีสามารถนำมาพิสูจน์และตกลงกันได้ตามจำนวนวันที่มีการซ่อมจริง นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ควรนำกรอบดังกล่าวไปรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ประกอบด้วย ภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และอู่ซ่อมรถยนต์ และควรมีการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปมีความเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับกรอบแนวทางการกำหนดจำนวนวันซ่อมรถยนต์ดังกล่าวด้วย
ประเด็นที่ 3 ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย โดยที่ประชุมได้กล่าวชื่นชมการทำงานเชิงรุกของสำนักงาน คปภ. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัย กรณีเกิดอุบัติภัยรายใหญ่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์รวมถึงการกำกับติดตามการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ประสบภัยที่มีความฉับไวและเข้าถึงสถานการณ์ ด้วยการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน
“ผมเห็นว่าข้อเสนอแนะทั้ง 3 มาตรการข้างต้น เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัย ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบประกันภัยและได้รับการบริการอย่างเป็นธรรม มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสำนักงาน คปภ. ขอน้อมรับทุกข้อเสนอแนะไปปฏิบัติ และจะขับเคลื่อนภารกิจอย่างเต็มความสามารถเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคด้านประกันภัย” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย