บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “BRC” ผู้ประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับการค้าปลีก การค้าส่ง การสั่งผลิต การนำเข้าและการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาและการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์อันมีส่วนเกี่ยวข้องเกื้อหนุนกับการค้าปลีก และ/หรือการค้าส่งของตนเอง ด้วยรูปแบบของธุรกิจที่หลากหลายโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในประเทศไทยและในภูมิภาคบนรากฐานอันแข็งแกร่งของธุรกิจที่ครอบคลุม ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “BJC” ประกาศชะลอการดำเนินการตามแผนการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering (“IPO”) และการนำหุ้นสามัญของ BRC เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) (“แผน IPO”) ตามที่ได้มีการสื่อสารไปก่อนหน้า
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “BRC” เปิดเผยว่า “การตัดสินใจครั้งนี้บริษัทได้พิจารณาจากสถานการณ์ตลาดทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีความผันผวนจากสภาวะเศรษฐกิจโลกโดยรวม รวมถึงการพิจารณาร่วมกับที่ปรึกษา จึงพิจารณาชะลอการดำเนินการตามแผน IPO ในครั้งนี้ออกไป ด้วยการพิจารณาอย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายโดยรวมเป็นหลัก ถึงแม้ว่าที่ผ่านมานักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจต่อแผน IPO เป็นอย่างดี หลังจากที่ได้แจ้งแผน IPO ของ BRC เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ตามที่คณะกรรมการบริษัท BJC ได้อนุมัติแผน IPO และ BRC ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรกและเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2566 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ฯ”
ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงได้พิจารณาเห็นสมควรว่า การชะลอแผน IPO ของ BRC จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายโดยรวม โดยพิจารณาจากทั้งประโยชน์ที่บริษัทและนักลงทุนจะได้รับ จากการคำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น ความพร้อมของตลาดทั้งในและต่างประเทศที่จะรองรับ การเสนอขาย IPO ขนาดใหญ่จากบริษัทไทยในขณะนี้ รวมถึงสถานการณ์ภายนอก เช่น ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกโดยรวมและวิกฤตราคาพลังงาน เป็นต้น
“อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความมั่นใจในการเติบโตของธุรกิจที่กำลังฟื้นตัวจากวิกฤตโควิดและจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทจะติดตามสภาวะของตลาดทุน และจะทบทวนแผน IPO ของ BRC อย่างใกล้ชิดเมื่อสถานการณ์ภาพรวมตลาดทุนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยบริษัทจะรายงานความคืบหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวให้แก่นักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายทราบต่อไป” นายอัศวิน กล่าวสรุป