เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ เอสซีจีซี (SCGC) ผู้นำตลาดเคมีภัณฑ์ระดับภูมิภาคที่มุ่งเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการสร้างความยั่งยืน ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กลุ่มประมงเรือเล็กพื้นบ้าน จ.ระยอง พันธมิตรธุรกิจ และเครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล เปิดตัวโครงการ “Nets Up” (เนทซ์ อัป) โมเดลการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อทะเลยั่งยืน เปลี่ยนอวนประมงที่ไม่ใช้แล้ว สู่ Marine Materials วัสดุทางเลือกใหม่จากนวัตกรรมรีไซเคิล เพื่อนำไปต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ธุรกิจสิ่งทอ ด้วยการขึ้นรูปเป็นเส้นด้ายและทอเป็นผืนผ้าสำหรับแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อัปไซเคิล สร้างทางเลือกใหม่ให้กับเจ้าของแบรนด์สินค้า และผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดปัญหาขยะทะเล พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลอย่างยั่งยืน และช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยมี นายพิชิต สมบัติมาก รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานในพิธี และดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานนวัตกรรม และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC เป็นผู้กล่าวรายงาน
ภายในงานฯ ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมด้วยการบริหารจัดการขยะทะเล และการพัฒนานวัตกรรมตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมทั้งการประกาศเจตนารมณ์แสดงความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ได้แก่ SCGC กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ทช.) สมาคมเยาวชน The Youth Fund องค์กร AEPW (Alliance to End Plastic Waste) ทีมพลาสเคมีคอล ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ Nyl-One ไทยแทฟฟิต้า กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สภาอุตสาหกรรมเเห่งประเทศไทย หอการค้าไทย สมาคมส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (ประเทศไทย) ชุมชนประมงนำร่อง และเครือข่ายพิทักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล
นอกจากนี้ ยังจะช่วยขับเคลื่อนให้ภาคธุรกิจนำ Marine Materials หรือวัสดุรีไซเคิลจากอวนประมงไม่ใช้แล้วไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อัปไซเคิล ตัวอย่างเช่น ธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งได้นำไปผลิตเป็นผ้าสำหรับตัดเย็บเครื่องนุ่งห่ม และเครื่องใช้ต่างๆ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล และยังช่วยส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับกลุ่มประมงพื้นบ้านอีกทางหนึ่งด้วย โดยขณะนี้ ได้เริ่มนำร่องโมเดลดังกล่าวในพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดระยองเป็นแห่งแรก และในอนาคตมีแผนจะขยายโครงการไปทั้ง 23 จังหวัด ริมชายฝั่งทะเลประเทศไทย”
นายกฤษฎิ์ ภักดีจิตต์ ตัวแทนจากสมาคมเยาวชน The Youth Fund ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า “ในฐานะเยาวชนคนรุ่นใหม่ รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมทางทะเล ร่วมกับภาครัฐ องค์กรชั้นนำ และภาคีเครือข่าย กลุ่ม The Youth Fund เป็นการรวมตัวของเยาวชนอายุ 15-17 ปี ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมเชิงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น การดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล การปลูกปะการัง การปลูกป่าชายเลน ทั้งนี้ ความร่วมมือในโครงการ Nets Up เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่เยาวชนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วยกันพิทักษ์ทะเล และปลูกฝังให้เด็กที่เป็นอนาคตและความหวังของประเทศ ได้เห็นความสำคัญของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า”
ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.scgchemicals.com