สกพอ.จับมือธนาคารกสิกรไทย ร่วมลงนามพัฒนาแหล่งระดมทุนและบริการทางการเงินพื้นที่อีอีซี

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาแหล่งระดมทุนและบริการทางการเงินเพื่อพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) หวังเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันระดับประเทศ พร้อมสร้างระบบนิเวศการลงทุนสีเขียวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายหลักส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่โดยให้ความสำคัญเรื่องของสิ่งแวดล้อมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งเพื่อผลักดันการลงทุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสีเขียวในพื้นที่อีอีซีให้เกิดการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการนี้ สกพอ.จึงได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย เพื่อสนับสนุนให้นักลงทุน ผู้ประกอบการ และประชาชน เข้าถึงแหล่งเงินทุนการทำธุรกรรมทางการเงิน ผลักดันให้เกิดการลงทุนใหม่และขยายการลงทุนเดิมในพื้นที่อีอีซี มุ่งเน้นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ การแพทย์และสุขภาพ ดิจิทัล ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ธุรกิจชีวภาพหมุนเวียน (BCG) และภาคบริการ รวมถึงกลุ่มธุรกิจผู้ประกอบการ และกลุ่มสตาร์ทอัพที่มีการดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์การเงิน ช่องทางการสนับสนุนเงินลงทุน และการระดมทุนที่หลากหลาย โดยความร่วมมือในครั้งนี้ จะสร้างโอกาสพัฒนาแหล่งระดมทุนในพื้นที่อีอีซี สามารถต่อยอดถึงบริการการเงินที่มุ่งเน้นส่งเสริมธุรกิจสีเขียว สร้างระบบนิเวศการลงทุนที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม (Green Ecosystem) ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน

ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว สกพอ. จะร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย ประสานกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดบริการทางการเงิน การทำธุรกรรมการเงิน และการลงทุนต่างๆ ในพื้นที่อีอีซีได้อย่างคล่องตัว สะดวกรวดเร็ว และมีต้นทุนที่เหมาะสม รวมทั้งจะสนับสนุนข้อมูลข่าวสารความก้าวหน้าการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสภาพแวดล้อมด้านการเงิน นวัตกรรมและระบบเทคโนโลยีต่างๆ พัฒนาระบบรองรับการระดมทุนให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่อีอีซี ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถและการแข่งขันให้แก่เศรษฐกิจไทย และผลักดันให้เกิดการลงทุนในธุรกิจสีเขียวได้อย่างครบวงจร

ดร. กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจด้วยยุทธศาสตร์ของการเป็น “ธนาคารแห่งความยั่งยืน” (Bank of Sustainability) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตระหนักในบทบาทของธนาคารที่เป็นต้นน้ำของระบบเศรษฐกิจ จึงมุ่งพัฒนาความร่วมมือต่างๆ ให้เกิดขึ้นในระบบนิเวศธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนลูกค้าและกลุ่มธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เป็นหนึ่งในการดำเนินงานของธนาคารกสิกรไทย เพื่อให้เกิดการบูรณาการทำงานร่วมกันในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีรองรับบริการทางการเงินที่ครบวงจร เช่น การระดมทุน และการซื้อขายหลักทรัพย์ในรูปแบบดิจิทัล รวมถึงสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรม และมีความสนใจเข้าระดมทุนในรูปแบบโครงการ (Project Finance) ในสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ผ่านการซื้อขายของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและมีความพร้อม สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ระดมเงินทุน เข้าถึงบริการทางการเงิน และทำธุรกรรมการเงินที่สะดวก และมีต้นทุนที่เหมาะสม ตลอดจนกิจกรรมด้านการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุน ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่อีอีซี ให้มีช่องทางในการระดมทุนที่หลากหลาย และตอบโจทย์ทางธุรกิจมากขึ้น

Bank of SustainabilityEECkbankธนาคารกสิกรไทยสกพอ.
Comments (0)
Add Comment