วีแกนและแพลนต์เบส ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือความยั่งยืนของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
1 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันวีแกนโลก (World Vegan Day) หรือวันมังสวิรัติโลก โดยปัจจุบันผู้คนหันมาเลือก ‘ลดและงด’ การรับประทานหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์มากขึ้น นอกเหนือจากการไม่เบียดเบียนสัตว์แล้ว ยังมีประโยชน์ดีๆ ต่อสุขภาพของเราและโลกด้วย ซึ่งรูปแบบการบริโภคอาหารแบบเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่เป็นเทรนด์ในปัจจุบันคือการเลือกรับประทานอาหารแบบวีแกน (Vegan) และแพลนต์เบส (Plant-based)
วีแกน (Vegan) และแพลนต์เบส (Plant-based) ต่างกันอย่างไร?
วีแกน (Vegan) งดการบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ 100%
วีแกน คือการรับประทานอาหารมังสวิรัติในรูปแบบหนึ่งที่เน้นการกินอาหารที่มาจากพืชหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ทุกชนิด เช่น นม เนย ชีส ไข่ โยเกิร์ต น้ำผึ้ง และยีสต์ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการไม่เบียดเบียนสัตว์ แต่ยังได้รับคุณประโยชน์จากสารอาหารในกลุ่มวิตามินและแร่ธาตุจากการรับประทานพืชผักและผลไม้ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส เส้นผมนุ่มสลวยเงางาม อีกทั้งช่วยเรื่องการควบคุมน้ำหนักและลดค่าดัชนีมวลกาย (BMI) เพราะร่างกายจะได้รับปริมาณแคลอรี่ที่น้อยลง ในทางกลับกัน ร่างกายจะได้รับไฟเบอร์ที่มากขึ้น ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นานและช่วยเรื่องการขับถ่ายได้ดี และที่สำคัญช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดัน ไขมัน หลอดเลือด เบาหวาน เป็นต้น
สายวีแกนไม่เพียงแต่ใส่ใจเรื่องอาหารการกินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การเลือกใช้เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า สบู่ โลชั่น ตลอดจนเครื่องสำอาง ที่ไม่มีวัสดุหรือส่วนผสมที่มาจากสัตว์ รวมไปถึงการไม่ทดลองกับสัตว์ในห้องแล็บ ซึ่งหลายวัฒนธรรมในต่างประเทศให้ความสำคัญและรณรงค์พิทักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อลดความสูญเสียและการทำร้ายสัตว์อย่างจริงจัง
แพลนต์เบส (Plant-based) ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิด แต่บริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ได้
แพลนต์เบส (Plant-based) เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ใส่ใจการดูแลสุขภาพแต่มีความยืดหยุ่นกว่า คือจะเน้นการรับประทานพืชและผลไม้ ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิด แต่บริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ได้ เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ หรือน้ำผึ้ง โดยเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเหลือง ธัญพืช และเห็ด เพื่อทดแทนเนื้อสัตว์ในเมนูต่างๆ ได้ โดยสำนักข่าว Bloomberg เผยว่า ภายในปี 2573 ตลาด Plant-based มีแนวโน้มที่จะมีมููลค่าสูงถึง 1.62 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีส่วนแบ่งในตลาดโปรตีนโลกถึง 7.7 เปอร์เซ็นต์ เพราะเทรนด์รักสุขภาพเป็นที่นิยมและสูงขึ้นทุกปี ผู้คนคำนึงถึงการดูแลสุขภาพและเลือกรับประทานสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยมักจะเลือกรับประทานผัก ผลไม้ และมองหาแหล่งโปรตีนทางเลือก เพื่อมาเติมเต็มสารอาหารในร่างกาย อาทิ พืชตระกูลถั่ว เมล็ดพืช น้ำมันจากพืช ธัญพืชไม่ขัดสี
อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารแบบ วีแกน และ แพลนต์เบส ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ เกิดภาวะไม่สมดุลของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย หรือกินไม่ถึงเกณฑ์ตามที่ร่างกายต้องการต่อวัน ดังนั้น เราจำเป็นต้องเพิ่มสารอาหารที่ขาดหายไป เช่น โปรตีน จากถั่วต่างๆ หรือโปรตีนที่มาจากพืชที่หลากหลาย แคลเซียมและธาตุเหล็ก จากผักใบเขียว สังกะสี วิตามินดี วิตามินบี 12 จากเต้าหู้และธัญพืช โอเมก้า 3 และ 6 จากเมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseed) และน้ำมันพืชบางชนิด ไอโอดีน จากสาหร่ายบางชนิด เป็นต้น การเลือกรับประทานอาหารทดแทนอย่างพอเหมาะหรือในบางคนก็เลือกวิตามินหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร มาช่วยเติมเต็มสารอาหารที่ขาดหายเพื่อบำรุงและซ่อมแซมร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์
ด้วยความใส่ใจในผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม แอมเวย์ แบรนด์ชั้นนำในตลาดสุขภาพ Health & Wellness ที่มีวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้ผู้คนมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ทีมผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์ของแอมเวย์ทั่วโลกได้พัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพและคำนึงด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีการคัดสรรสารสกัดจากวัตถุดิบของพืชที่มาจากฟาร์มออร์แกนิคนิวทริไลท์ และใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้วัตถุดิบคุณภาพและปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ นำไปใช้เป็นส่วนผสมในสินค้านิวทริไลท์และสินค้าอื่นๆ ของแอมเวย์ เช่น ออล แพลนท์ โปรตีน (All Plant Protein) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรตีนสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติ และต่อยอดผลิตภัณฑ์สุขภาพเป็นกลุ่มสินค้า แพลนต์เบส (Plant-based) ภายใต้ชื่อ แพลนท์ ทู เทเบิล บาย นิวทริไลท์ (Plant To Table by Nutrilite) ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มาจากพืช เพื่อเป็นอีกตัวเลือกของผู้ที่นิยมแพลนต์เบส มีรสชาติอร่อย รับประทานง่าย สะดวกพกพาไปได้ทุกที่ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการดูแลความงาม อาร์ทิสทรี สกิน นิวทริชั่น ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่เป็น ‘คลีนบิวตี้’ ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ The Vegan Society เพื่อรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมที่มาจากสัตว์ ไม่มีการทดลองกับสัตว์ และไม่มีส่วนผสมที่อาจเป็นอันตรายต่อผิว จึงสามารถดูแลผิวหน้าได้อย่างอ่อนโยน ให้ผิวสวย ดูสุขภาพดี รวมถึงการดูแลสุขอนามัยประจำวันกับกลิสเทอร์ (Glister) กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและฟันที่ผสานคุณค่าจากพืชธรรมชาติ Plant-based Goodness ช่วยดูแลสมดุลไมโครไบโอมในช่องปาก เพื่อปกป้องดูแลสุขภาพช่องปากและฟันสำหรับทุกคนในครอบครัว
แอมเวย์มุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งการดูแลสุขภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด เพื่อการมีสุขภาพดีและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน สัมผัสคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากแอมเวย์ได้ที่
Website: www.amway.co.th
Facebook: www.facebook.com/amwaythailand
Line Official: @amwaythailand
Amway Contact Center: 0-2725-8000