“พฤกษา โฮลดิ้ง” โชว์ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2566 ทำกำไรสุทธิ 2,082 ล้านบาท เติบโต 30% มีรายได้รวม 19,900 ล้านบาท เติบโต 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2566 ว่า พฤกษา โฮลดิ้ง หรือ PSH ทำรายได้รวม 19,900 ล้านบาท เติบโต 9% มาจากการโอนบ้านเดี่ยวและคอนโดที่ดีขึ้น และรายได้ของกลุ่มธุรกิจเฮลท์แคร์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโควิดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมกับรายได้อื่น ๆ ที่มาจากการปรับโครงสร้างของทั้งธุรกิจอสังหาฯ และธุรกิจเฮลท์แคร์ ให้เป็นหน่วยสร้างกำไร มีกำไรสุทธิ 2,082 ล้านบาท เติบโต 30% เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2565 ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีกำไร 80 ล้านบาท จากการโอนกิจการ แลปพลัส วัน ในเครือ รพ. เทพธารินทร์ ให้แก่ อินโนเควสท์ ไดแอคโนสติกส์ วัน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง PAH (Thailand) Pte. Ltd. และ รพ. วิมุตโฮลดิ้ง นอกจากนี้ ล่าสุดจับมือกับพันธมิตรธุรกิจ แคปปิตอลแลนด์ อินเวสเม้นท์ ลิมิเต็ด (CapitaLand Investment Limited) ยักษ์ใหญ่ด้านจัดการการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก จัดตั้งกองทุน C-WELL เดินหน้าลงทุนสินทรัพย์เพื่อส่งเสริมสุขภาพและการอยู่อาศัย “อยู่ดี มีสุข” พร้อมขยายตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มูลค่า 25,000 ล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มสัดส่วนสร้างรายได้ประจำ (Recurring income) รวมถึงรายได้จากการให้บริการโดย รพ. วิมุต และยังสนับสนุนธุรกิจอสังหาฯ จากการนำที่ดินที่มีอยู่ในมือเข้ากองทุนเพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ส่งเสริมการดูแลสุขภาพ และสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการพัฒนาที่อยู่อาศัยในภูมิภาคนี้
ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ มีรายได้ 9 เดือนแรกราว 1,325 ล้านบาท เติบโต 71% เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2565 มาจากรายได้ที่ไม่รวมโควิดเติบโตขึ้น 102% รวมกับรายได้จากโรงพยาบาลเทพธารินทร์ รักษาโรคที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นพร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งในแผนกศัลยกรรม กระดูกและข้อ รวมถึงหัวใจ ขณะเดียวกันกลุ่มวิมุตมีความมุ่งมั่นขยายการให้บริการตรวจสุขภาพกับบริษัทขนาดใหญ่และบริษัทประกัน พร้อมนำเสนอบริการเทเลเมดิซีนและการให้บริการถึงบ้าน เพื่อให้เป็นที่รู้จักและสร้างรายได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ การขยายความร่วมมือกับโรงพยาบาลรามาธิบดี เพิ่มทางเลือกและการเข้าถึงบริการทางสุขภาพ 17 แพ็คเกจ อาทิ แพ็คเกจผ่าตัดถุงน้ำดี ผ่าตัดมดลูก เต้านม ก้อนเนื้อที่รังไข่ ซ่อมแซมไส้เลื่อน ผ่าตัดริดสีดวงทวาร เปลี่ยนข้อเข่าเทียม ผ่าตัดก้อนหรือผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งมีการส่งต่อคนไข้จากโครงการความร่วมมือเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา สร้างฐานลูกค้าที่ส่งต่อจากโรงพยาบาลรัฐเข้ามาเพิ่มขึ้น รวมถึงเร่งมือขยายการรองรับทยอยเพิ่มเตียงสำหรับผู้ป่วยใน เป้าหมายทั้งสิ้น 60 เตียงจนถึงต้นปีหน้า
“นอกจากนี้ ด้วยความมุ่งมั่นสร้างสรรค์เพื่อส่งมอบการอยู่อาศัยที่ดี ควบคู่ไปกับการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ ‘พฤกษา โฮลดิ้ง’ ได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์ให้อยู่ในรายชื่อ ‘หุ้นยั่งยืน’ โดยได้รับการคัดเลือกต่อเนื่องถึง 8 ปีซ้อน สะท้อนความใส่ใจด้านการให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) อย่างต่อเนื่อง มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ” นายอุเทนกล่าวเสริม