เนื่องใน วันป่าไม้โลก (World Forestry Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 21 มีนาคม ของทุกปี จัดตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ ตลอดจนส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าในทุกมิติ เพื่อสร้างห่วงโซ่อาหารและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ กาแฟพันธุ์ไทย ที่มุ่งดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการยกระดับ Ecosystem ในทุกภาคส่วนของธุรกิจกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ทุกชีวิต ‘อยู่ดี มีสุข’ อย่างยั่งยืน
จากการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ “กาแฟพันธุ์ไทย” ได้รับรางวัลเกียรติคุณ กาแฟรักษ์โลก ประเภท “ร้านกาแฟรักษ์โลก” ประจำปี 2567 ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่ได้รับโล่พระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในงาน “ภาคเหนือ สวรรค์ของคนรักกาแฟ” (Northern Thai Coffee Paradise 2024) จัดโดย กระทรวงพาณิชย์ และกลุ่ม 17 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมกับ สมาคมกาแฟและชาไทย เพื่อส่งเสริมและผลักดันกาแฟภาคเหนือของไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับสากล จัดขึ้น ณ Alive Park Hall ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
นายอนันต์ รัตนมั่นคง Vice President of Food and Beverage Services Group บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า “กาแฟพันธุ์ไทย ตั้งใจเป็นแบรนด์ที่สนับสนุนคนไทย เกษตรกรไทย ควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา กาแฟพันธุ์ไทย ได้จับมือกับ กรีโนเวท บริษัทในเครือ PTG เพื่อร่วมกันส่งเสริมเกษตรกรท้องถิ่น ตำบลปางหินฝน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พร้อมจัดตั้ง “โครงการพัฒนาและส่งเสริมการปลูกกาแฟอะราบิก้าบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน” เพื่อส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ในการปลูกกาแฟให้เกษตรกร ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำการเกษตรแบบเดิมหรือการทำไร่เลื่อนลอย มาปลูกกาแฟเพิ่มขึ้น พร้อมร่วมพัฒนาพื้นที่เขาหัวโล้น ให้กลายเป็นพื้นที่ป่ากาแฟที่อุดมสมบูรณ์ นับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2566 จนถึงปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วม 24 ท่าน ร่วมกันปลูกกาแฟกว่า 68,000 ต้น บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ โดยพันธุ์ไทยได้รับซื้อผลผลิตเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโดยตรง ด้วยราคาที่เป็นธรรม ซึ่งนอกจากจะช่วยกันลดปัญหาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นการสร้างอาชีพให้แก่เกษตรกรไทย สร้างรายได้ให้ชุมชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อไป”
ดร.ธีรวัฒน์ วงศ์วรทัต นายกสมาคมกาแฟและชาไทย กล่าวว่า “กาแฟถือเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีความต้องการในตลาดสูง ซึ่งในปัจจุบันภาคเหนือมีพื้นที่ปลูกและปริมาณผลผลิตกาแฟอาราบิกาที่มากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งการปลูกกาแฟสามารถทำเกษตรแบบผสมผสาน เพื่อสร้างความหลากหลายทางชีวภาพให้แก่พืชและสัตว์น้อยใหญ่ ส่งผลให้ระบบนิเวศธรรมชาติบนดอยสูง มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังสามารถช่วยส่งเสริมเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกกาแฟ ร่วมกันกับผลไม้ ถั่วแมคคาเดเมีย หรือพืชผลอื่นๆ นำไปสู่การประกอบอาชีพเกษตรร่วมกับการอนุรักษ์ผืนป่าได้อย่างยั่งยืน”
กาแฟพันธุ์ไทย ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ต้องการเชื่อมให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ “อยู่ดี มีสุข” โดยมุ่งมั่นส่งเสริมวัตถุดิบท้องถิ่นในประเทศ สร้างงาน สร้างอาชีพแก่เกษตรกรพี่น้องชาวไทย คืนกำไรกลับสู่ชุมชน รวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการส่งเสริมเกษตรกรไทย ให้มีองค์ความรู้ และตระหนักถึงผลกระทบของการตัดไม้ทำลายป่า การเผาเศษวัชพืช ทำให้เกิดปัญหาหมอกควัน พื้นที่เขาหัวโล้น อันส่งผลกระทบต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม และเกิดภาวะโลกร้อนในระยะยาว