บีโอไอจับมือค่ายรถยนต์ MG ดึงผู้ผลิตชิ้นส่วนเข้าซัพพลายเชน EV

บีโอไอ ผนึกกำลังค่ายรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ “MG” และเครือข่ายพันธมิตร ร่วมจัดงานใหญ่ “MG Sourcing Day” เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อดึงผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศเข้าสู่ซัพพลายเชนของ MG เพิ่มเติม โดยมีบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เข้าร่วม 218 ราย เกิดการเจรจาธุรกิจ 134 คู่ และสร้างมูลค่าซื้อขายชิ้นส่วนในประเทศเพิ่มอีกกว่า 1,380 ล้านบาท จาก 85 บริษัท

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอให้ความสำคัญกับการผลักดันให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ เข้าไปอยู่ในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลมุ่งส่งเสริม เพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต EV ครบวงจรระดับโลก โดยที่ผ่านมา บีโอไอได้จัดกิจกรรม Sourcing Day ร่วมกับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหลายราย เช่น BYD, NETA, BMW เป็นต้น และล่าสุดเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา บีโอไอร่วมกับค่ายรถยนต์ MG การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) จัดงานแสดงชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า การบรรยายแนวทางการจัดซื้อชิ้นส่วนของ MG และการจับคู่เจรจาธุรกิจ ภายใต้ชื่อ “MG Sourcing Day” ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่าง MG ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศที่มีศักยภาพ ทั้งในระดับ Tier 1-3

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์

งาน “MG Sourcing Day” ในครั้งนี้ มีผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 450 คน จาก 218 บริษัท โดยในจำนวนนี้ มีบริษัทที่ได้ร่วมเจรจาธุรกิจจำนวน 134 คู่ ครอบคลุมการจัดหาชิ้นส่วนกว่า 40 รายการ ตามความต้องการของ MG เช่น ชิ้นส่วนตัวถังรถ, ระบบส่งกำลังรถยนต์ (Powertrain), ชิ้นส่วนภายในรถยนต์, e-Compressor, Wire Harness รวมทั้งชิ้นส่วนในกลุ่มโลหะและพลาสติก ซึ่งจากการประเมินผลเบื้องต้นหลังการจัดงาน พบว่า จะสร้างมูลค่าซื้อขายชิ้นส่วนในประเทศเพิ่มเติมจากเดิมไม่น้อยกว่า 1,380 ล้านบาท จาก 85 บริษัท

“ในการสร้างฐานอุตสาหกรรม EV หัวใจสำคัญคือ การพัฒนาซัพพลายเชนในประเทศให้ครบวงจรและเข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยให้อุตสาหกรรม EV ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก บีโอไอมีนโยบายสนับสนุนให้ค่ายรถยนต์ EV ต่าง ๆ จัดหาชิ้นส่วนจากในประเทศให้มากที่สุด ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ของค่ายรถยนต์เองแล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ และเกิดการเชื่อมโยงลงมาถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนรายย่อยในกลุ่ม Tier 2-3 ซึ่งส่วนใหญ่เป็น SMEs ไทยด้วย โดยตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตเหล่านี้ได้สั่งสมประสบการณ์และพัฒนาทักษะ จนสามารถผลิตชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานสากล ป้อนให้กับบริษัทรถยนต์ชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่ายรถญี่ปุ่น ยุโรป หรืออเมริกา จึงมั่นใจได้ว่าบริษัทเหล่านี้ พร้อมจะเป็น Supplier ที่มีคุณภาพให้กับ MG ได้อย่างแน่นอน” นายนฤตม์ กล่าว

ด้านนายสุโรจน์ แสงสนิท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี กล่าวขอบคุณบีโอไอ และหน่วยงานพันธมิตรที่ได้เชิญ MG เข้าร่วมกิจกรรมและให้ความสำคัญกับการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ และเป็นโอกาสที่ดีของ MG ที่ได้มารู้จักกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศที่มีศักยภาพระดับสากลอีกมากมาย

“ที่ผ่านมา MG ได้มีการทำงานร่วมกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในระดับ Tier 1 ในหลากหลายด้าน ทั้งการจัดซื้อ การจ้างผลิตชิ้นส่วน การวางแผนพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศผ่านการอบรมด้านเทคโนโลยีและการสนับสนุนทางเทคนิค เพื่อช่วยยกระดับผู้ผลิตชิ้นส่วนเหล่านี้ ให้มีโอกาสเรียนรู้และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ EV เพื่อนำไปสู่การขยายโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ผลิตเหล่านี้สามารถผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับอุตสาหกรรม EV ในระยะต่อไป” นายสุโรจน์ กล่าวและในตอนท้าย นายสุโรจน์ได้เน้นย้ำว่า

“ในฐานะผู้บริหารคนไทย ขอยืนยันว่า MG ให้ความสำคัญ และการสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ชิ้นส่วนของรถยนต์ MG มาจากผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศให้ได้มากที่สุด”

ทั้งนี้ ค่ายรถยนต์ MG ถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนรายแรกที่เข้ามาบุกเบิกตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2560 ภายใต้บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างไทย – จีน โดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ด้วยเงินลงทุนทั้งสิ้นกว่า 13,000 ล้านบาท กำลังการผลิตรถยนต์ทุกประเภทรวมกันกว่า 100,000 คันต่อปี ปัจจุบันจ้างงานบุคลากรไทยกว่า 1,100 คน และมีการใช้ชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศประมาณร้อยละ 45 ของชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งหมด โดยมีแผนขยายการลงทุนและการใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง