เอสซีจี จัดเต็มโชว์นวัตกรรมสินค้าและโซลูชันจาก 10 แบรนด์ชั้นนำเรื่องบ้านที่อยู่อาศัยบนพื้นที่กว่า 800 ตารางเมตรในงานสถาปนิก 67 ภายใต้แนวคิด “SCG Forward into Future Living: Sustaining Space and Technology” ตอบโจทย์เทรนด์การอยู่อาศัยและใช้ชีวิต ผสมผสานแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กับการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงาน สะอาด ปลอดภัย และยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน ตั้งเป้ายอดขายในงานกว่า 60 ล้านบาท
นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Smart System Solution ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง กล่าวถึงไฮไลท์นวัตกรรมที่เอสซีจีนำมาจัดแสดงในงานนี้ว่า “ทุกปีเอสซีจีนำนวัตกรรมในเครือมานำเสนออย่างหลากหลาย โดยเอสซีจีมองว่า วัสดุไม่ใช่เพียงส่วนหนึ่งของสิ่งก่อสร้าง แต่เป็นพื้นที่การใช้ชีวิตและการอยู่อาศัย เพราะฉะนั้นจึงมีการคิดต่อยอดว่าจะทำอย่างไรให้วัสดุ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของบ้านและอาคาร ตอบโจทย์ความต้องการและเทรนด์ในปัจจุบัน ทั้งเรื่องพื้นที่ (Space) เทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Technology) รวมไปถึงความยั่งยืน (Sustainability) ผ่าน 10 แบรนด์สินค้าของเอสซีจี ที่เป็นที่รู้จักและมาร่วมออกบูธปีนี้”
เริ่มจากการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ONNEX by SCG Smart Living (ออนเนกซ์ บาย เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง) ที่รวมนวัตกรรมเพื่อบ้านและอาคารที่สมาร์ทขั้นกว่ามาไว้ที่เดียว ตอบโจทย์การใช้ชีวิตด้วย Smart Technology ไม่ว่าจะเป็น ‘ONNEX Solar Roof Solutions’ ช่วยประหยัดค่าไฟสูงสุดร้อยละ 60 มาพร้อมเทคโนโลยี Solar Fix สิทธิบัตรเฉพาะเอสซีจี ช่วยเสริมความปลอดภัยยิ่งขึ้น และแก้ปัญหาหลังคารั่วหลังติดตั้งโซลาร์เซลล์ ‘ONNEX Active Air Quality’ แก้ปัญหาคุณภาพอากาศ ด้วยการเติมอากาศดีเพื่อบล็อคฝุ่นและเชื้อโรค เพิ่มออกซิเจนในบ้าน โดยไม่ง้อเครื่องกรองอากาศ ‘ONNEX Active Air Flow’ แก้ปัญหาบ้านร้อนอบอ้าว ด้วยระบบถ่ายเทและระบายอากาศ ช่วยให้บ้านเย็นลง 2-5 องศาเซลเซียส และ ‘DoCare’ (Smart Home Solution for Seniors) เพิ่มคุณภาพการดูแลผู้สูงอายุ ด้วยนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับและใช้งานจริงแล้วทั่วโลก เฝ้าระวังและแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน อาทิ เรดาร์ตรวจจับการล้ม อุปกรณ์ขอความช่วยเหลือด้วยเสียง และอุปกรณ์ช่วยติดตามสุขภาพประจำบ้าน มาทดลองใช้งานจริงได้ที่บูธออนเนกซ์ในงานนี้เท่านั้น
นวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง เอสซีจี พร้อมตอบโจทย์หลากมิติการอยู่อาศัย ตั้งแต่งานดีไซน์ที่ลงตัวกับการออกแบบสเปซสมัยใหม่ที่ต้องการความแตกต่าง อาทิ ‘หลังคาเซรามิก รุ่น EXCELLA’ ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ระบบดิจิทัลรายแรกในไทย ‘ไม้ฝา’ สีโอเชี่ยนบลู และโอลีฟกรีน ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคาเฟ่ที่มีสีสันจัดจ้านทันสมัย ‘ระแนงตกแต่ง รุ่น Litewood’ อลูมิเนียมเคลือบสีทำลายไม้ ‘ผนังตกแต่ง รุ่นโมดิน่า เคิร์ฟ’ ผนังเซาะร่อง หน้ากว้างเพียง 10 เซนติเมตร ‘บล็อกปูพื้น รุ่นแกรนิตโค้ทติ้งสโตน’ มีผิวสัมผัสและสีสันเสมือนหินแกรนิตแท้ และ ‘บล็อกปูพื้น รุ่นเคิร์ฟ’ รูปทรงได้แรงบันดาลใจจากลอนโค้งคลื่นน้ำ ในส่วนเทคโนโลยี เปิดตัว ‘ฝ้าสมาร์ทบอร์ด เอสซีจี แมกซ์’ ช่วยให้งานเจาะง่ายยิ่งขึ้น ติดตั้งเร็ว ‘หลังคาเมทัล’ ลดเสียงดังได้ถึงร้อยละ 18 มาพร้อมสินค้าที่ได้รับรองฉลาก SCG Green Choice เพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยทุกผลิตภัณฑ์ไม่ใช้แร่ใยหิน รวมถึง ‘วัสดุตกแต่งผนังไฟเบอร์ซีเมนต์เอสซีจี รุ่นโมดิน่า คอฟฟ์’ พัฒนาร่วมกับคาเฟ่อเมซอน มีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิลจากกากกาแฟเหลือทิ้ง และเศษวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตของเอสซีจี ถึงร้อยละ 48 ทดแทนการใช้ Virgin Fiber ‘ไม้พื้น รุ่น dassoCTECH PLUS 3050’ ผลิตจากไม้ไผ่สายพันธุ์ Moso ที่ปลูกในป่าปลูก ได้ทั้งเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานเหนือไม้จริง และลดการปล่อยคาร์บอน
COTTO ภายใต้ SCG Decor นำเสนอแนวคิด COTTO ‘reform the new sustainable result, made by you’ ผ่านการผสานสินค้ากระเบื้อง สุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ และวัสดุปิดผิวใหม่ ๆ เข้ากับบริบทของวิกฤตระดับมหภาค ที่กระทบกับคนทั่วโลก อย่างการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่ COTTO ได้หยิบยกรูปทรงการละลายธารน้ำแข็ง (Iceberg Crack) ที่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของภาวะโลกร้อน มาเป็นไอเดียของ Art Installation โดยออกแบบร่วมกับทีม KIDSBLOOM สร้างสรรค์ ‘scenography collective’ ที่มาเติมสีสัน บรรยากาศ สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้บูธ COTTO ในปีนี้ พร้อมเปิดตัวสินค้าคอลเลคชันใหม่ ‘Clay Decor Collection’ ที่ได้รับฉลากรับรองสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากหลายประเทศ ‘Stone Decor Collection’ วัสดุตกแต่งผิวจากหินธรรมชาติแท้ เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต ความบางเพียง 1.5-2 มิลลิเมตร ‘X-Strong Collection’ กระเบื้องกันรอยขูดขีด และรับน้ำหนักพิเศษ และ ‘ECO collection’ จากกลุ่มสินค้ากระเบื้องตกแต่ง ที่ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ได้ถึงร้อยละ 50 สินค้าสุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ ‘Smart Lifestyle Bathroom’
CPAC Green Solution พาไปสัมผัสนวัตกรรมการสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัด ‘CPAC 3D Printing Solution’ ในคอนเซ็ปต์ CPAC GREEN CONNECTIVITY กับการรังสรรค์พื้นที่ด้วยแนวคิดการนำคำว่า CONNECTIVITY มาใช้ออกแบบพื้นที่สีเขียว ร่วมกับนวัตกรรม CPAC 3D Printing Solution เพื่อรังสรรค์พื้นที่ให้มีการเชื่อมโยงระหว่างผู้คนและสิ่งแวดล้อม พร้อมร่วมเปิดประสบการณ์กับผลงานที่สามารถตอบโจทย์ทุกไอเดียการออกแบบ ครอบคลุมทั้ง 4 เซกเมนต์ ได้แก่ Decoration การออกแบบ-ผลิตชิ้นงานสุดชิคเพื่อคนมีสไตล์ Landscape & Sculpture การรังสรรค์พื้นที่ให้เป็น ICONIC แห่งใหม่ในอนาคต Construction รูปแบบการก่อสร้างอาคาร 2 ชั้นครั้งแรกของประเทศไทย และ Coral Reef การใช้เทคโนโลยีเพื่อดูแลท้องทะเลไทย นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ชั้นนำจากเอสซีจีร่วมนำนวัตกรรมสินค้าใหม่ ๆ มาจัดแสดง อาทิ
- ตราเสือ TIGER Universe – ปูนตราเสือกลับมาพร้อมกับจักรวาลตราเสือ ที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการงานซีเมนต์ที่จะช่วยสร้างสรรค์บ้านให้สวยงาม น่าอยู่ ตอบโจทย์ทุกจินตนาการ ครบทุกขั้นตอนภายใต้แบรนด์ “ตราเสือ” พร้อมทั้งสินค้าใหม่จากปูนตราเสือ และเสือ Lifestyle
- คิวคอน (Q-CON) มาในแนวคิด ESG Design Your Space ในโอกาสครบรอบ 30 ปี ตอบโจทย์เทรนด์การก่อสร้างยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยไฮไลท์ในงานเป็นคอนกรีตมวลเบาสำหรับงานตกแต่ง (Q-CON Decoration) อาทิ แผ่นผนังฉลุลาย บล็อกช่องลมลวดลายต่าง ๆ เพิ่มความโดดเด่นให้พื้นที่ภายในและภายนอก และยังช่วยกันความร้อน ประหยัดพลังงาน และแผ่นผนังคิวคอน (Q-CON Wall Panel Solution) ระบบผนังติดตั้งเร็ว ผ่านการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และ SCG Green Choice ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานฝีมือ ลดเวลาในการก่อสร้าง ภายในบูธจัดแสดงสินค้า Waste to Value จากโครงการ “เพิ่มมูลค่าให้เศษอิฐ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันรายได้สู่ชุมชน” อาทิ กระถางมวลเบารักษ์โลกคิวคอน หรือการนำเศษอิฐมวลเบามาแปรรูปใหม่ในกลุ่มเกษตรภัณฑ์ เป็นต้น
- วินด์เซอร์ (WINDSOR) ชวนเปิดประสบการณ์การอยู่อาศัยแบบไร้รอยต่อ ภายใต้แนวคิด Seamless Living Experience ไฮไลต์ในงานเป็นระบบบานเลื่อนรูปแบบใหม่ ‘SIGNATURE PRO’ ที่เปิดกว้างได้ถึง 6 เมตร สูงถึง 3 เมตร เชื่อมต่อพื้นที่ภายในสู่ภายนอกอย่างอิสระ เหมาะกับงานออกแบบที่ต้องการความปลอดโปร่ง และเปิดตัวดีไซน์วงกบรูปแบบใหม่ในตระกูล RIGHT Series กับ ‘RIGHT XTEND’ ที่มีขนาดวงกบ 10 เซนติเมตร เรียบเสมอกับระดับผนัง และรองรับความสูงได้ถึง 2.7 เมตร นอกจากนี้ขอชวนผู้เข้าร่วมชมงานมาพิสูจน์คุณสมบัติ Ultimate Protection ในมุมทดสอบประสิทธิภาพการป้องกันเสียงและป้องกันความร้อน เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านอยู่สบาย พร้อมประหยัดพลังงานในระยะยาว
- ชินโคไลท์ (Shinkolite) กับแนวคิด “Living Well by Transparency Living” เปิดตัวระแนง Shinkolite – Fin & Shade ที่คำนึงถึงการใช้งานให้ทุกพื้นที่ดูหรูหรา โปร่ง สบายตา แต่ยังคงความเป็นส่วนตัว ด้วยคุณสมบัติพิเศษโดยเฉพาะของแผ่นอะคริลิก Shinkolite ด้านการกรองแสงและตัดความร้อน (Heat Cut) พร้อมระบบการติดตั้งดีไซน์พิเศษ “Snap Lock System” เพิ่มความแข็งแรง ลดระยะเวลาติดตั้ง และคงความสวยงามในทุกจุดทั้งภายในและภายนอกของอาคาร พบกับ Living well Experience และสินค้าอื่น ๆ ของ Shinkolite อาทิ หลังคากันสาด โรงจอดรถ ราวกันตก ฟาซาด และอะคริลิกสำหรับงานตกแต่ง
- โฮมสมายล์ (HomeSmile) เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ของการต่อเติมบ้านเพื่อเพิ่มคุณภาพการอยู่อาศัย ทั้งช่วยกันร้อน กันเสียงรบกวนจากภายนอก ด้วยระบบผนังที่ใส่ฉนวนพิเศษ ทำให้อยู่สบายยิ่งกว่า ติดตั้งได้เร็วกว่าระบบทั่วไปด้วย Light Gauge Steel System ที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ประกอบจากโรงงานสามารถอัปเกรดห้องให้ใช้งานได้ตามความต้องการ มีวัสดุเสริมให้เลือกเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับการใช้งานด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องสำหรับผู้สูงอายุ ห้องทำงาน ห้องโฮมเธียเตอร์ มั่นใจได้ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากเอสซีจี มีประสบการณ์ต่อเติมบ้านมากว่า 1,000 หลัง คุมงบได้ พร้อมการรับประกัน ชมห้องตัวอย่างจริงได้ภายในงาน
พบกับนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยได้ที่งานสถาปนิก 67 พร้อมรับโปรโมชันพิเศษ ส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท รับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน ค่าสำรวจหน้างานเริ่มต้น 499 บาท ติดตามรายละเอียดโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่ SCGHOME.com สอบถามเพิ่มเติม SCG Contact Center โทร 02-586-2222