เคทีซี ผงาดเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกในเอเชีย แปซิฟิก ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิต (The Payment Card Industry Data Security Standard – PCI DSS) Version 3.2.1 สำหรับบริการรับชำระ จากสถาบันรับรองมาตรฐานแห่งชาติของประเทศอังกฤษ (BSI) ซึ่งจัดการควบคุมความปลอดภัยโดยสภามาตรฐานความปลอดภัยอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน ประกอบด้วย 5 ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการเครือข่ายชำระเงินระหว่างประเทศ เพื่อช่วยป้องกันการละเมิดข้อมูลผู้ถือบัตรเครดิต
นางสาวชนิดาภา สุริยา ผู้บริหารสูงสุด สายงานบริการลูกค้าและสนับสนุนธุรกิจ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การประกอบธุรกิจบัตรเครดิต สิ่งสำคัญที่สุดคือการป้องกันและรักษาข้อมูลบัตรตลอดกระบวนการชำระเงิน การปฏิบัติตามมาตรฐาน PCI DSS จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรที่จะต้องจัดเก็บ ประมวลผล หรือส่งข้อมูลบัตรเครดิตให้ปลอดภัย ซึ่งเคทีซีมุ่งเน้นการปฏิบัติและพัฒนาเพื่อสร้างมาตรฐานสากล โดยคำนึงถึงคน กระบวนการและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในระบบการประมวลผลบัตรชำระเงิน ซึ่งจะมุ่งเน้นการจัดการความปลอดภัยทั้งนโยบาย ขั้นตอน ระบบและการออกแบบซอฟแวร์ที่เชื่อถือได้ เพื่อให้ผู้ถือบัตรเครดิตมีความมั่นใจว่าข้อมูลบัตรเครดิตจะได้รับความคุ้มครองตามมาตรฐานสากล”
“การที่เคทีซีได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลบัตรชำระเงิน PCI DSS Version 3.2.1 ในครั้งนี้ นับเป็นสถาบันการเงินรายแรกในเอเชีย-แปซิฟิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยในการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตสำหรับบริการรับชำระ (Acquiring Service) อ้างอิงจากการลงทะเบียนของ Card Scheme -VISA และ Mastercard โดย BSI หรือ British Standards Institution ซึ่งเป็นสถาบันรับรองมาตรฐานแห่งชาติของประเทศอังกฤษ ได้ทำการตรวจเพื่อประเมินว่าองค์กรได้มีการกระทำที่สอดคล้องกับวิธีปฏิบัติที่ดีตามมาตรฐานที่ระบุ ซึ่งเป็นไปตามเป้าประสงค์ของเคทีซีที่ต้องการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตครอบคลุมทั้งระบบ ตั้งแต่ช่องทางการรับชำระต่างๆ ทั้งในร้านค้าสมาชิกผ่านเครื่องรูดบัตร (KTC EDC) ผ่านอินเตอร์เน็ต หรือร้านค้าประเภทอีคอมเมิร์ซผ่านระบบชำระเงินออนไลน์ของเคทีซี (KTC PAYMENT GATEWAY) รวมทั้งสามารถจัดเก็บ ประมวลผล รับส่งข้อมูลบัตรฯ ได้อย่างปลอดภัย ตลอดจนป้องกันภัยคุกคามต่างๆ ไปยังผู้ประกอบธุรกิจบนระบบเครือข่ายบัตรเพื่อส่งข้อมูลต่อไปยังผู้ออกบัตร และจะจ่ายเงินค่าสินค้าหรือค่าบริการให้แก่ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการ หรือผู้ประกอบธุรกิจสนับสนุนบริการแก่ผู้รับบัตรต่อไป”