เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ร่วมกับ 2 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ได้แก่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และสำนักงานนวัตกรรมอิสราเอล (Israel Innovation Authority) หรือ IIA ร่วมผลักดันผลงานด้านนวัตกรรม “โครงการรีไซเคิลพลาสติกพีวีซีด้วยกระบวนการซูเปอร์ออกไซด์ (Superoxide Process) เพื่อผลิตน้ำมันแนฟทาสำหรับอุตสาหกรรมเคมี” ซึ่งเป็นวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับโรงงานปิโตรเคมี ช่วยแก้ปัญหาการจัดการพลาสติกพีวีซีใช้แล้วซึ่งยากต่อการกำจัด พร้อมส่งเสริมงานวิจัยด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนสู่งานวิจัยเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม โดยความร่วมมือระหว่าง SCGC และ บริษัท พลาสติกแบ๊ค (Plastic Back) ประเทศอิสราเอล ทั้งนี้ SCGC มีแผนนำร่องทดลองใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตามแนวทาง Low Waste, Low Carbon ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการใช้วัตถุดิบตั้งต้นจากฟอสซิล และเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green polymer) ในอนาคต
นายตัล โคเหน ประธานบริษัทพลาสติกแบ๊ค กล่าวว่า “การรีไซเคิลพลาสติกพีวีซีถือเป็นโอกาสครั้งใหญ่ ความร่วมมือกับ SCGC ครั้งนี้ช่วยให้เราสามารถปิดวงจรการอัปไซเคิลของขยะพีวีซีที่ยากต่อการจัดการได้ และเรายังคงมุ่งหวังจะสร้างความร่วมมือกับ SCGC ต่อไปในอนาคต สุดท้ายนี้ การสนับสนุนจาก NIA และ IIA เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราสามารถรวบรวมนวัตกรรม ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และทรัพยากรอื่น ๆ มาสร้างให้เกิดความร่วมมือได้”
นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย กล่าวว่า “อิสราเอลเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายตั้งแต่ก่อตั้งประเทศขึ้นมา ทั้งการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติและตั้งอยู่ในภูมิศาสตร์ที่ท้าทาย อิสราเอลจึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ยกระดับศักยภาพความเป็นผู้ประกอบการ และความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี รวมถึงพัฒนางานวิจัยที่ก้าวหน้าและมีคุณภาพ พร้อมทั้งสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งและเป็นเอกลักษณ์ซึ่งประกอบด้วยภาครัฐ สถาบันการศึกษา บริษัทข้ามชาติ กองกำลังป้องกันอิสราเอล และการระดมทุนจากภาคเอกชน ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อิสราเอลได้เปลี่ยนจากการเป็น “ประเทศแห่งสตาร์ตอัป” ไปสู่การเป็น “ประเทศแห่งยูนิคอร์น” โดยมีบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เกือบ 100 แห่ง และในวันนี้เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นความสำเร็จของความร่วมมือแรกที่เกิดขึ้นจากการลงนามความร่วมมือ (MoU) ระหว่าง NIA และ IIA โดยเป็นโครงการนำร่องจาก SCGC และ Plastic Back ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการลดปริมาณพลาสติกใช้แล้วด้วยเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งพัฒนาโดย Plastic Back โครงการนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และเราเชื่อมั่นว่าจะมีโครงการที่ประสบความสำเร็จอีกมากมายตามมาในอนาคต การรวมตัวกันระหว่างสตาร์ตอัปของอิสราเอลและบริษัทใหญ่ในประเทศไทยครั้งนี้ จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศได้อย่างแน่นอน”
นายอาวี่ ลุฟตัน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แผนกความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานนวัตกรรมอิสราเอล หรือ IIA กล่าวว่า “นวัตกรรมเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของอิสราเอล IIA จึงเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนเครื่องมือและแพลตฟอร์มการระดมทุนที่หลากหลาย เพื่อรับมือกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของระบบนิเวศนวัตกรรมทั้งในและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ประกอบการระยะเริ่มต้น บริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการผลิตใหม่ ๆ กลุ่มนักวิชาการที่ต้องการถ่ายทอดแนวคิดสู่ตลาด บริษัทข้ามชาติที่สนใจร่วมมือกับเทคโนโลยีของอิสราเอล บริษัทอิสราเอลที่ต้องการหาตลาดใหม่ในต่างประเทศ และโรงงานแบบดั้งเดิมที่ต้องการผสานนวัตกรรมและการผลิตขั้นสูงเข้าสู่ธุรกิจของตน ความร่วมมือระหว่างประเทศจึงเป็นหนึ่งในงานที่ IIA ให้ความสำคัญ โดย IIA จะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระดับนานาชาติ จับคู่พันธมิตรในต่างประเทศให้กับอิสราเอล เพื่อช่วยค้นหาโอกาสในการสร้างความร่วมมือที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลหรือธุรกิจ ความร่วมมือระหว่างอิสราเอล-ไทยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นโครงการนวัตกรรมการรีไซเคิลพีวีซีของทั้ง 2 บริษัท ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของความสำเร็จที่น่าจับตามอง”