การเคหะแห่งชาติ เร่งช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไฟไหม้แฟลตดินแดง
จากกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องพักอาคารแฟลตดินแดงที่ 35 ชั้น 4 ถนนประชาสงเคราะห์ซอย 1 กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 16.40 น. ที่ผ่านมา นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ มีความห่วงใยผู้อยู่อาศัยในห้องพักดังกล่าวและผู้อยู่อาศัยบริเวณห้องข้างเคียง จึงมอบหมายให้ เรืออากาศโท ชัยรัตน์ ทองบริบูรณ์ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นางสิริกร พัชรกุลวรรณ ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ พร้อมผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของสภาพอาคารและสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการเร่งด่วน
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ เบื้องต้นของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานสันนิษฐานว่า สาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ เกิดจากการเสียบปลั๊กเครื่องซักผ้าทิ้งไว้ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรบริเวณพื้นที่ครัวด้านหลังห้องพักอาศัย ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้อยู่อาศัยในห้องพัก ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิง และกู้ภัยสุทธิสาร สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เข้าระงับเหตุอย่างทันท่วงที เนื่องจากได้มีการอบรมให้ความรู้การป้องกันระงับ อัคคีภัยและการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชน จึงสามารถเข้าแก้ไข ปัญหาได้ภายใน 20 นาที
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบสภาพอาคารและห้องพักอาศัยในเบื้องต้นพบว่า ได้รับความเสียหายเล็กน้อยและอยู่ระหว่างการตรวจสอบโครงสร้างและความปลอดภัยของตัวอาคาร หากผลการตรวจสอบออกมาว่าไม่กระทบกับโครงสร้างอาคาร การเคหะแห่งชาติจะจัดสรรงบประมาณเข้าซ่อมแซมห้องพักอาศัยอย่างดีที่สุด
สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย การเคหะแห่งชาติได้มอบเงินเยียวยา และถุงยังชีพ จำนวน 1 ชุด มูลค่ารวม 8,800 บาท ในนามมูลนิธิการเคหะสงเคราะห์ โดยการเคหะแห่งชาติ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และในระหว่างนี้ ผู้ประสบภัยจะพักอาศัยกับบุตรชายเป็นการชั่วคราวจนกว่าการตรวจสอบอาคารและการเข้าซ่อมแซมห้องพักอาศัยแล้วเสร็จ จึงจะกลับมาอยู่อาศัยตามปกติ
“ผมได้รายงานให้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ รับทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้แสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนและกำชับให้การเคหะแห่งชาติเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่และดูแลความปลอดภัยของการอยู่อาศัยในตัวอาคาร โดยการเคหะแห่งชาติได้เร่งดำเนินการเข้าช่วยเหลือแล้ว นอกจากนี้การเคหะแห่งชาติยังให้ความสำคัญเรื่องการตรวจสอบอาคารด้านความมั่นคง แข็งแรง และระบบอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ ของอาคาร รวมถึงได้จัดให้มีการอบรม ให้ความรู้การป้องกันระงับอัคคีภัยและการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชนเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความรู้ความเข้าใจในการป้องกันอัคคีภัย รู้จักการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงแต่ละประเภท รวมถึงวิธีหนีไฟได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัยอีกด้วย” นายทวีพงษ์ กล่าวย้ำ