ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและต้องการมีอายุยืนยาวขึ้น เวชศาสตร์การมีอายุยืนยาว (Longevity Medicine) นับเป็นเมกะเทรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายทั่วโลก สถิติหลายแห่งได้เผยถึงคนทั่วโลกมีอายุขัยเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ไปจนถึงวัยชราสูงขึ้นตามไปด้วย
ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ (VitalLife Scientific Wellness Center) เป็นผู้บุกเบิกการแพทย์ด้านเวชศาสตร์การมีอายุยืนยาวมากว่า 24 ปี ภายใต้การดำเนินงานของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ประกาศถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาการแพทย์สู่การดูแลสุขภาพเชิงรุก ในงานแถลงข่าว ‘Unlocking the Secrets to a Longer, Healthier Life by VitalLife’ โดยเน้นการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพที่ดีในทุกช่วงอายุ ไม่ใช่เพียงการรักษาโรคเมื่อเจ็บป่วยเท่านั้น แต่มุ่งเน้นการมีอายุยืนยาวอย่างแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดอายุขัย พร้อมทั้งนำเสนอเทคโนโลยีและองค์ความรู้ทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้การดูแลสุขภาพเป็นแบบเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการนี้ นอกจากจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนวงการแพทย์ของประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น
ปี 2024 นับเป็นปีแห่งความท้าทายสู่การเปลี่ยนแปลงที่เหนือกว่าของไวทัลไลฟ์ เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จอีกขั้น โดยได้มีการปรับเปลี่ยนในหลายมิติ ภายใต้การนำทีมของ ผศ.นพ. พลกฤต ทีฆคีรีกุล Chief Executive Officer ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์และเอสเพอรานซ์ และ Chief Science Officer โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ซึ่งปฏิวัติวงการในการดูแลสุขภาพด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย มุ่งเน้นการสร้างการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคลเพื่อให้ผู้คนมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพอย่างยั่งยืน รวมถึงการปรับรูปโฉมใหม่ของไวทัลไลฟ์และการให้บริการแบบบูรณาการครอบคลุมทุกมิติ โดยย้ายมาที่ตึก D ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ภายใต้การออกแบบที่หรูหราและทันสมัย อีกทั้งยังได้ปรับทัพทีมผู้บริหารและทีมแพทย์เพื่อให้สอดรับการเติบโตด้านเวชศาสตร์การมีอายุยืนยาว ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ทางการแพทย์
หัวใจสำคัญของไวทัลไลฟ์ คือ การมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) นวัตกรรมในห้องปฏิบัติการ (Lab Innovation) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ผลการตรวจวิเคราะห์ที่แม่นยำและรวดเร็วจากเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้งานในห้องปฏิบัติการ ซึ่งได้รับการรับรองจากวิทยาลัยพยาธิแพทย์อเมริกัน (College of American Pathologists: CAP) ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาของผู้รับบริการแต่ละบุคคลได้อย่างตรงจุด 2) การบูรณาการ AI (AI Integration) ด้วยการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมและชีวภาพจำนวนมหาศาลหรือการวินิจฉัยโรคที่มีความซับซ้อนทางชีวเคมี เช่น โรคมะเร็ง และโรคทางระบบประสาทได้อย่างครอบคลุม ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น และ 3) นวัตกรรมแห่งความร่วมมือ (Collaborative Innovation) โดยผนวกจุดแข็งในด้านนวัตกรรมในห้องปฏิบัติการเข้ากับความเป็นเลิศทางคลินิกของบำรุงราษฎร์ ทำให้เกิดกระบวนการการวินิจฉัยและการวางแผนการดูแลสุขภาพที่ไร้รอยต่อ
นอกจากนี้ ไวทัลไลฟ์ยังได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของวิทยาการทางการแพทย์อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างมากทำให้เราอยู่ในแถวหน้าของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์
นพ. สุธี ศิริเวชฎารักษ์ Chief Administrative Officer ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์และเอสเพอรานซ์ กล่าวว่า การมีอายุยืนยาวไม่ใช่เพียงแค่การมีชีวิตอยู่ให้นาน แต่หมายถึงการมีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกช่วงอายุ ไวทัลไลฟ์ให้ความสำคัญกับการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสาเหตุของความชรา เพื่อนำมาพัฒนาแนวทางการดูแลสุขภาพที่สามารถชะลอกระบวนการชรา และช่วยให้ทุกคนมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพที่ดี จากงานวิจัยและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้มี 12 สาเหตุสำคัญที่นำไปสู่วัยชรา เช่น การกลายพันธุ์ของ DNA ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกและโรคมะเร็งตามอายุ การสูญเสียความสมดุลของการควบคุมการผลิตและทำลายโปรตีนในเซลล์ ซึ่งจะส่งต่อความผิดปกติของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน รวมถึงการตอบสนองต่อสารอาหารผิดปกติ นำไปสู่ภาวะผิดปกติของระบบเผาผลาญ ส่งผลต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ เป็นต้น
สุขภาพของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ดังนั้น ไวทัลไลฟ์จึงได้นำเสนอแนวทางและพัฒนาแผนการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมระยะยาวที่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะบุคคล เพื่อให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพที่ตั้งเป้าไว้ โดยมีเส้นทางการดูแลสุขภาพใน 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย การประเมินที่ครอบคลุม การวางแผนอายุยืนเฉพาะบุคคล การบำบัดและการดูแลรักษาแบบองค์รวม และการติดตามและการปรับเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและองค์ความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับการมีอายุยืนยาว พร้อมใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีทันสมัย อย่างนาฬิกาสุขภาพหรือแหวนสุขภาพ เข้ามาเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพ เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการมีอายุที่ยืนยาวพร้อมพลังแห่งความเยาว์วัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว
นอกจากนี้ ไวทัลไลฟ์ยังใช้นวัตกรรมการรักษาที่ช่วยชะลอกระบวนการชราในระดับเซลล์ และมีการติดตามสุขภาพอย่างใกล้ชิดผ่านอุปกรณ์สวมใส่ต่าง ๆ เพื่อติดตามตัวชี้วัดด้านสุขภาพที่สำคัญในแต่ละวัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัย รวมถึงใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงเข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้เข้ารับบริการอย่างละเอียด เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ได้ล่วงหน้า ช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาที่ตรงจุดและเฉพาะบุคคลได้มากขึ้น ตลอดจนเข้าใจถึงกลไกของโรคในระดับโมเลกุลได้อย่างลึกซึ้ง จากการบูรณาการข้อมูลและเทคโนโลยีที่หลากหลาย จึงทำให้ไวทัลไลฟ์สามารถให้บริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เพื่อเป้าหมายของการมีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว
พญ. วรรณวิพุธ สรรพสิทธิ์วงศ์ Business Development Director ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากไวทัลไลฟ์จะนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนานวัตกรรมและโปรแกรมดูแลสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล โดยเน้นการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำ การดูแลเฉพาะบุคคล และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างแข็งแรงแล้ว ไวทัลไลฟ์โฉมใหม่ยังให้ความสำคัญในเรื่องการออกแบบประสบการณ์ของผู้มารับบริการ ผ่านแนวคิด ‘Ecosystem of Care’ โดยใช้หลักการของสัดส่วนและความกลมกลืนของ Golden Ratio ระบบนิเวศด้านการดูแลสุขภาพ เน้นการสร้างประสบการณ์เชิงบวกโดยยึดหลักผู้มารับบริการเป็นศูนย์กลาง เช่น การอำนวยความสะดวกสบาย และการช่วยแก้ไขปัญหา (Pain Point) ให้กับผู้มารับบริการได้อย่างเหมาะสมในทุกจุดของการให้บริการ
ด้วยการผสมผสานศาสตร์แห่งการมีอายุยืนยาวกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมทีมแพทย์ชำนาญการเฉพาะทางและโปรแกรมดูแลสุขภาพที่ออกแบบเป็นเอกลักษณ์ ไวทัลไลฟ์พร้อมเป็นผู้นำในการปฏิวัติวงการสุขภาพ สู่การมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ และสร้างอนาคตแห่งสุขภาพที่เหนือกว่าในระยะยาว