ป๊อกกี้ จัดงาน Pocky Day 11.11 ชวนแฟนคลับในไทยมาร่วม อัพจังหวะความสุข สนุกขึ้นกับ ‘ป๊อกกี้’ นำเสนอไฮไลต์สุดพิเศษด้วย 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘ป๊อกกี้ รสนม’ และ ‘ป๊อกกี้ รสทุเรียน’ หลังเดินหน้ากระตุ้นตลาดอย่างเต็มที่ตลอดปีผ่านกิจกรรม On-Ground และกิจกรรม Online คาดยังคงเติบโตตลอดปี 2567 ปัจจัยหลักจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง สร้างประสบการณ์ใหม่ผ่านกลยุทธ์ Experience Marketing
“ปัจจุบันผู้บริโภคมีทางเลือกหลากหลาย จึงทำให้เกิดความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่อินเทรนด์แปลกใหม่อยู่เสมอ ดังนั้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์เรื่องคุณค่า คุณภาพ และรสชาติที่ถูกปาก รวมถึงตอบโจทย์เทรนด์เรื่องการใส่ใจสุขภาพ การเติมเต็มด้านอารมณ์ และการมอบโมเมนต์ความสุขให้เกิดขึ้นระหว่างผลิตภัณฑ์และผู้บริโภค เพื่อสร้างให้เกิดประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจำ จะยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น สำหรับกูลิโกะ เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเติมเต็มความต้องการในด้านต่าง ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง โดยมีทั้งรสชาติที่ยอดเยี่ยมและดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถครองใจผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้” นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ป๊อกกี้, เพรทซ์ และพีจอย กล่าวถึงพฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลต์สุดพิเศษภายในงานคือการนำเสนอ 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่! ที่เพิ่งวางตลาดในเดือนกันยายน 2567 ประกอบด้วย ป๊อกกี้ รสนม ที่ไม่ได้มาแค่ความอร่อย แต่ยังมีประโยชน์จากส่วนผสมของนมฮอกไกโด ซึ่งเป็นแหล่งของแคลเซียม และ ป๊อกกี้ รสทุเรียน หอม…อร่อยกลมกล่อม รสทุเรียนเต็มคำ เพราะมีส่วนผสมทุเรียนแท้ ๆ ซึ่งการออกรสชาติใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคจะดำเนินการคู่ไปกับการรักษามาตรฐานเรื่องคุณภาพของสินค้าและรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์แบบฉบับป๊อกกี้ อีกทั้งการสร้างสรรค์แผนการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เข้าถึงทุกกลุ่มอายุ และมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดรูปแบบใหม่ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา Gen Z โดยเฉพาะ ให้ได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ได้รับความประทับใจจากกลยุทธ์การตลาดเชิงประสบการณ์ หรือ Experience Marketing จาก ป๊อกกี้
ด้านกลยุทธ์ทางการขายนั้น นางสาวสาริน ประทีปทอง ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ป๊อกกี้ กล่าวว่าบริษัทฯ มีการปรับกิจกรรมส่งเสริมการขายให้เหมาะสมกับผู้บริโภคในทุกช่องทาง อีกทั้งยังไม่หยุดมองหาช่องทางการขายใหม่ ๆ ที่ทำให้ช่วยขยายฐานลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงและสะดวกกับผู้บริโภคมากขึ้น เช่น HORECA และ Brand Collaborations นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การขายผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายในการสั่งซื้อและได้ข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ ซึ่งผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ https://glicothai.com และร้านค้าทางการ (Official Store) ในแพลตฟอร์มออนไลน์ของกูลิโกะได้เช่นกัน โดยสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ป๊อกกี้คิดค้นพัฒนา ต้องตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคเรื่องคุณค่า คุณภาพ และรสชาติที่ถูกปาก รวมถึงตอบโจทย์เทรนด์เรื่องการใส่ใจสุขภาพ การเติมเต็มด้านอารมณ์ และการมอบโมเมนต์ความสุขให้เกิดขึ้นระหว่างผลิตภัณฑ์และผู้บริโภค เพื่อสร้างให้เกิดประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจำ ทำให้ป๊อกกี้เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคจดจำว่า มีความเทรนดี้ ทันสมัย ไม่ตกยุคอยู่เสมอ
“สำหรับกูลิโกะเรามองว่าเทรนด์สุขภาพคือโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ ที่ทำให้เกิด segment ใหม่ ๆ ขึ้นโดยจะไม่มีการขายขนมของกูลิโกะที่ไม่ดีต่อสุขภาพต่อผู้คน นอกจากจะผลิตสินค้าที่ดีต่อผู้บริโภคแล้ว กูลิโกะยังดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กันไป โดยมีการใช้น้ำมันปาล์ม RSPO ในผลิตภัณฑ์ป๊อกกี้มาตั้งแต่ปี 2564 และครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ในหมวด Confectionery ตั้งแต่ปี 2566 อีกทั้งยังมีนโยบายมุ่งมั่นจัดหาผลิตภัณฑ์ Cacao ที่ผลิตอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงปัญหาสังคมที่เกี่ยวข้อง เช่น แรงงานเด็ก ความยากจนของครอบครัวเกษตรกร และการตัดไม้ทำลายป่า สำหรับบรรจุภัณฑ์ กระดาษที่นำมาใช้ทำกล่องบรรจุภัณฑ์มี FSC Certificate และพร้อมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยทำให้อร่อยขึ้น กินแล้วมีความสุข และยังคงรักษามาตรฐานคุณภาพของสินค้าให้น่าเชื่อถือ และได้รับความไว้วางใจดังเช่นที่ผ่านมา และที่สำคัญต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาด้วย” นางสาวสาริน กล่าวสรุป