ออริจิ้น กางพอร์ต 3 กลุ่มธุรกิจใหม่ โรงแรม-คลังสินค้า-บริการ ขึ้นแท่น New S-Curve ขับเคลื่อนสร้างสมดุลการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมโรงแรมแบรนด์ดัง 11 แห่ง 2,657 ห้อง คลังสินค้าทำเลยุทธศาสตร์ขนส่ง 10 แห่ง และบริการอสังหาฯครบวงจรดูแล 44,650 ครอบครัว แย้มอัตราเข้าพักโรงแรมเดือน ต.ค.-พ.ย. ทะลุ 75% อัตราเช่าคลังสินค้าทะลุ 90% หลังตลาดเข้าช่วงไฮซีซั่นและฟรีวีซีซ่านักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ด้านธุรกิจบริการอสังหาฯ ครบวงจร กวาดรายได้ 9 เดือนกว่า 1,205 ล้าน วางรากฐาน New S-Curve เติบโตยั่งยืน
สำหรับธุรกิจโรงแรม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น โฮเทล จำกัด (มหาชน) มีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 11 แห่ง 2,657 ห้องพัก คิดเป็นมูลค่า REIT รวมกว่า 16,840 ล้านบาท เติบโตผ่านทั้งการจับมือกับเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก อย่างเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) ให้บริการโรงแรมถึง 5 แห่ง อาทิ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ, ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา-แหลมฉบัง, อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ สุขุมวิท การซื้อกิจการโรงแรมแบรนด์ ibis ในเครือแอคคอร์ (Accor) ทำเลหัวเมืองท่องเที่ยว 3 แห่ง ตลอดจนการซื้อโรงแรมในทำเลศักยภาพมารีโนเวทเพื่อดำเนินการใหม่เพิ่มเติม
ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้า ภายใต้บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด มีคลังสินค้าทั้งแบบสร้างตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit Warehouse) และคลังสินค้าแบบสำเร็จรูป (Ready-Built Warehouse) กระจายตัวอยู่ 10 แห่ง ในหลากหลายทำเลยุทธศาสตร์ขนส่ง อาทิ สมุทรปราการ ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี คิดเป็นพื้นที่เช่ารวมกว่า 403,447 ตร.ม.
“สิ่งที่เราพยายามลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ กำลังเข้ามาช่วยให้พอร์ตธุรกิจเราค่อยๆ สมดุลมากขึ้น ในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 4/2567 กลุ่มธุรกิจโรงแรมมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 75% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากเริ่มเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้วในปีนี้ และเป็นที่รู้จักของตลาดมากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยว ภาครัฐมีนโยบายฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติม ฝั่งคลังสินค้าเองก็มีอัตราการเช่าที่แข็งแกร่งทะลุ 90%” นายพีระพงศ์ กล่าว
ขณะเดียวกันธุรกิจบริหาร Investment Property ภายใต้บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HHR) ก็มีอัตราเช่าเฉลี่ยสูงถึง 81% สะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยแบบปล่อยเช่าทั้งในโซนย่านใจกลางธุรกิจ (CBD) และย่านเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ยังมีความต้องการจากทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง