ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ตอกย้ำความสำเร็จในปี 2567 ด้วยยอดขายรวมสูงถึง 35,435 ล้านบาท เติบโตตามเป้าหมาย โดยแบ่งเป็นยอดขายจาก โครงการบ้านแนวราบ ภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) มูลค่า 6,544 ล้านบาท คิดเป็น 18% และ โครงการคอนโดมิเนียมแนวสูง ภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ORIGIN VERTICAL) มูลค่า 28,891 ล้านบาท คิดเป็น 82%
ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ “ออริจิ้น” ในฐานะผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลาย ทั้งในกลุ่ม Gen Y และ Gen Z โดยเฉพาะจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to Move) และโครงการเปิดใหม่บนทำเลศักยภาพทั่วประเทศ
ชู 3I กลยุทธ์สำคัญสู่ความสำเร็จ
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ORI เปิดเผยถึงกลยุทธ์ที่นำไปสู่ความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด “3I” (Insight – Initiative – Implementation) ได้แก่:
- Insight: เข้าใจความต้องการลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลด้านทำเล การใช้ชีวิต และการลงทุน
- Initiative: สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และฟังก์ชันใหม่ๆ เพื่อตอบสนองทุกมิติของการอยู่อาศัย
- Implementation: ยกระดับโครงการด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตและสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้บริโภค
ออริจิ้นเตรียมเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัว Origin Agent Club ซึ่งรวบรวมเอเจนท์กว่า 300 ราย พร้อมสร้างยอดขายจากลูกค้าต่างชาติสูงถึง 5,700 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา เติบโต 225% ซึ่งถือว่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท
ในปี 2568 บริษัทวางแผนขยายตลาดผ่านการเปิดสำนักงานขายในต่างประเทศ พร้อมโรดโชว์นำเสนอโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยสู่ระดับสากล นอกจากนี้ยังปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจคอนโดฯ และจัดทัพผู้บริหารใหม่ เพื่อสร้าง New S-Curve และต่อยอดสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจเมกะเทรนด์ และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ
ปี 2567 ORI ได้เปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยรวม 12 โครงการ มูลค่ารวม 19,400 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 4 โครงการ มูลค่า 4,900 ล้านบาท และ คอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่า 14,500 ล้านบาท เช่น:
- SO Origin Bangtao Beach คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี มูลค่า 2,500 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 77%
- The Origin Sriracha คอนโดสไตล์ญี่ปุ่น มูลค่า 750 ล้านบาท ยอดขาย 50%
- Origin Place Taopoon Interchange คอนโด High Rise เพดานสูง 2 เมตร มูลค่า 2,300 ล้านบาท ยอดขาย 66%
มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืน
นายพีระพงศ์ย้ำว่า แม้ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567 เผชิญความท้าทายหลายด้าน แต่ความต้องการบ้านยังคงมีอยู่เสมอ บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบโครงการที่ตอบโจทย์และสร้างความสนใจให้ผู้บริโภค พร้อมรักษาความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับความผันผวน
ในปี 2568 บริษัทในเครืออย่าง บริทาเนีย และ พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น เตรียมประกาศแผนธุรกิจในไตรมาสแรก ขณะที่ ORI วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อตอกย้ำบทบาทผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย