ชูยุทธศาสตร์ 3+1 และ Productivity เดินหน้าขยายสินเชื่อ-รายได้ค่าธรรมเนียม-ดิจิทัลแพลตฟอร์ม
ธนาคารกสิกรไทย เผยแผนธุรกิจปี 2568 มุ่งใช้เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและยกระดับการให้บริการลูกค้า ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ เสริมแกร่งธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและระบบการชำระเงิน พร้อมยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลแบงก์กิ้ง ผ่านแพลตฟอร์ม K PLUS และ K BIZ เดินหน้าขยายฐานผู้ใช้ รองรับระบบนิเวศธุรกิจที่ครบวงจร
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปี 2568 ธนาคารยังคงเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ 3+1 และ Productivity มุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ การขยายธุรกิจรายได้ค่าธรรมเนียม การเสริมแกร่งช่องทางบริการ และการสร้างรายได้ใหม่ในระยะกลาง-ยาว โดยมีการยกระดับ Productivity ผ่านการใช้ AI และเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร
“ธนาคารจะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างตรงจุด ใช้เทคโนโลยีและ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมผู้บริโภคให้แม่นยำยิ่งขึ้น รวมถึงปรับกระบวนการทำงานให้คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
สำหรับเป้าหมายทางการเงินปี 2568 ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในระดับทรงตัว โดยเน้นคุณภาพสินเชื่อที่ดี ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยง ขณะที่ผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.3-3.5% และรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิ (Net Fee Income) คาดว่าจะเติบโตระดับ Mid to High-single Digit
ขณะเดียวกัน ธนาคารยังคงเดินหน้า เพิ่มขีดความสามารถด้านการลงทุนและธุรกิจการชำระเงิน โดยเน้นการพัฒนาโซลูชันการลงทุนผ่านแพลตฟอร์ม K PLUS และการเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่น่าเชื่อถือ (Trusted Advisor) เสริมด้วยบริการ ‘Better Finance for Better Life’ เพื่อช่วยบริหารพอร์ตการเงินของลูกค้า
ด้านธุรกิจชำระเงิน (Payment Business) K PLUS ยังคงเป็นแพลตฟอร์มหลัก รองรับธุรกรรมออนไลน์ที่เติบโตขึ้น โดยปัจจุบัน 1 ใน 3 ของธุรกรรมออนไลน์ในไทยดำเนินการผ่าน K PLUS ธนาคารยังขยายบริการโอนเงินข้ามประเทศ รองรับการชำระเงินระหว่างประเทศ และพัฒนาระบบ K PLUS Go Inter ให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวมากขึ้น
ในปี 2568 ธนาคารมุ่งเน้นพัฒนาช่องทางดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ลูกค้า โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน K PLUS จาก 23.1 ล้านคน เป็น 23.9 ล้านคน และเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน K BIZ จาก 1.2 ล้านคน เป็น 2.1 ล้านคน
พร้อมกันนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้า พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ขับเคลื่อนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและการลงทุนในนวัตกรรมการเงิน โดยในช่วงปี 2565-2567 ได้ส่งมอบสินเชื่อและเงินลงทุนด้านความยั่งยืนรวมกว่า 1.2 แสนล้านบาท
“ในปี 2568 ธนาคารจะยังคงยกระดับบริการดิจิทัลเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน และช่วยให้ลูกค้าบรรลุศักยภาพสูงสุดในทุกมิติ” นางสาวขัตติยากล่าว
รุกขยายธุรกิจใน AEC+3 – ปักธงจีน เวียดนาม อินโดนีเซีย
สำหรับการขยายธุรกิจในระดับภูมิภาค ธนาคารให้ความสำคัญกับตลาด AEC+3 โดยเน้นขยายฐานใน จีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย พร้อมเดินหน้าสร้างพันธมิตรในระบบนิเวศทางการเงิน รองรับโอกาสเติบโตของตลาดต่างประเทศ
ทั้งนี้ ธนาคารยังคงยึดมั่นหลักการ “ธนาคารแห่งความยั่งยืน” พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และตอบโจทย์ลูกค้าผ่านนวัตกรรมทางการเงินที่ล้ำสมัย