เสนา ปักธงผู้นำตลาด Affordable ลุยเปิด 12 โครงการใหม่ มูลค่า 13,000 ล้าน เดินหน้ากลยุทธ์ Sustainable Living

เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดเกมรุกตลาดที่อยู่อาศัยราคาจับต้องได้ 1-3 ล้านบาท วางแผนเปิดตัว 12 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท ในปี 2568 พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 15,500 ล้านบาท และยอดโอนกรรมสิทธิ์ 10,000 ล้านบาท ย้ำจุดยืนผู้นำด้านการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน เดินหน้าขยายพอร์ตโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม ตอบโจทย์กำลังซื้อยุคใหม่

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ (ดร.ยุ้ย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะยังคงเผชิญกับปัจจัยท้าทาย ทั้งปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดของสถาบันการเงิน อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น และโครงสร้างเศรษฐกิจที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว แต่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ส่งผลให้ 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมียอด Pre-Sales สูงถึง 12,500 ล้านบาท โดยเฉพาะโครงการ LivNex เช่าออมบ้าน ที่มียอดขาย 1,900 ล้านบาท จาก 976 ยูนิต และมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 6,515 ล้านบาท พร้อมกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความสามารถและศักยภาพของเสนาในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง

สำหรับปี 2568 บริษัทเตรียมเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ 12 โครงการ แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 11 โครงการ และโครงการแนวราบ 1 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท โดยยังคงเน้นตลาด Affordable Segment ซึ่งเป็นกลุ่มที่เสนาครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดถึง 20% หรือมากกว่า 20,000 ยูนิต ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 15,500 ล้านบาท และยอดโอน 10,000 ล้านบาท ซึ่งได้รวมสัดส่วนรายได้จากโครงการ LivNex เช่าออมบ้าน

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์

เสนาพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2568 เพื่อก้าวข้ามทุกความท้าท้ายและยกระดับมาตรฐานของการเป็น ผู้นำด้านการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน (Sustainable Living Leader) ผ่านกลยุทธ์ “Refined Focus” ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การพัฒนา แต่คือการยกระดับโครงการและบริการที่มีอยู่ให้ดีที่สุด โดยแบ่งออกเป็น 4 แกนหลัก ดังนี้

  1. 1 in Affordable Market: เสนาเป็นผู้นำตลาด Affordable ปัจจุบันมีบ้านและคอนโดรวม 12,600 ยูนิต มูลค่ารวม 30,600 ล้านบาท ตอบโจทย์กลุ่มเรียลดีมานด์ ซึ่งมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน คิดเป็น 54% ของครัวเรือนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เสนาเชี่ยวชาญในตลาดนี้และพร้อมยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยให้เข้าถึงได้จริง
  2. Strong Partnership: ความร่วมมือกับ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป พันธมิตรทางธุรกิจที่ยาวนานกว่า 9 ปี พัฒนาโครงการรวม 66 โครงการ มูลค่ากว่า 83,000 ล้านบาท ไม่เพียงเสริมศักยภาพทางการเงินเพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการบริหารของเสนาด้วยธรรมาภิบาลที่ดี และมาตรฐานการพัฒนาโครงการที่ยั่งยืน และยังคงเดินหน้า จับมือร่วมทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัยและเดินหน้าพัฒนาโครงการคุณภาพร่วมกัน
  3. SENA Eco System to Make Us Stronger: การขับเคลื่อนธุรกิจที่เสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ของกลุ่มธุรกิจหลัก
  • SenX (เซ็นเอกซ์) – ยกระดับบริการอสังหาริมทรัพย์ด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี
    • Customer-Centric Data Center: SenX ศูนย์ข้อมูลที่ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการกับเสนา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
    • Service Excellence: มุ่งเน้นคุณภาพบริการ โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 16 ปี ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
    • Sustainable Management: ใช้ Smart Tech บริหารจัดการที่อยู่อาศัยในโครงการอย่างยั่งยืน เช่น ระบบ BMS, Carbon Monitoring, และ Waste Management ผ่านความร่วมมือกับ Recycle Day
    • Smart Application: Always on Connectivity กับ แอปพลิเคชัน และเทคโนโลยีดิจิทัลในการบริการด้านที่พักอาศัย แบบ Seamless เพื่อให้ลูกบ้านสามารถใช้ชีวิตแบบ “LIFE SIMPLIFIED” ได้ในทุก ๆ วัน
  • SENA Green Energy – ก้าวสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด The New S-Curve
    • ขยาย SENA Green Automotive สู่การเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 3 แบรนด์ NETA, LEAP และ DEEPAL รองรับเทรนด์พลังงานสะอาดและอนาคตของการขับเคลื่อน
    • SENA Solar Energy เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์ติดตั้งมากกว่า 1,000 ครัวเรือน
    • SENA Reforestation ตั้งเป้าปลูกป่า 2,000 ไร่ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอน ประมาณ 11,334 ตันต่อปี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนความยั่งยืนและการรักษาสิ่งแวดล้อม

SENA Eco System ไม่ใช่แค่การพัฒนาโครงการ แต่คือการสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

  1. Sustainable Living Leadership มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ได้แก่
    • เดินหน้า แนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ (Zero Energy House concept) พัฒนา 42 โครงการ รวมจำนวน 4,290 ยูนิต ลดการปล่อยคาร์บอนได้ไม่ต่ำกว่า 6,993 ตันคาร์บอนต่อปี
    • อีกขั้นของการพัฒนาที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต บ้าน ZEH (Zero Energy House ) New Model บ้านเดี่ยวติดโซลาร์รูฟพร้อมแบตเตอรี่ กับ Segment High Class “Grand Serie” และ เตรียมเปิดตัวครั้งแรก ที่โครงการ เสนา พาร์ค แกรนด์ กม. 9 (SENA Park Grand Ramindra KM.9)
    • ตอกย้ำความสำเร็จ SENA Low Carbon ด้วยการเปิดตัวครั้งแรก แฟล็กชิป คอนโดโลว์คาร์บอน พร้อมเข้าอยู่ 2 โครงการ คือ เฟล็กซี่ เมกะ สเปซ บางนา (Flexi Mega Space Bangna) และ นิช โมโน บางโพ (Niche Mono Bangpo)
    • เสนาเป็นบริษัทอสังหาฯ รายแรกในไทยที่มุ่งมั่นปลดล็อกโอกาสการเข้าถึงที่อยู่อาศัยผ่านการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่และ Generation Rent ที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นทางการเงิน และมองหาทางเลือกที่อยู่อาศัยที่ไม่จำกัดแค่การซื้อขาด เสนาจึงได้เปิดตัว “LivNex นวัตกรรมเช่าออมบ้าน เมื่อปีที่ผ่านมา และปีนี้พบ “RentNex Subscription คอนโด โมเดลของวงการอสังหาฯ ซึ่งได้รับความสนใจและผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของแนวทางนี้อย่างชัดเจน โดยมีลูกค้าเข้าร่วมโครงการ LivNex แล้วกว่า 976 ยูนิต มูลค่า 1,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนการเข้าถึงที่อยู่อาศัยให้เป็นจริงได้ในยุคที่เศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยตอบสนองความต้องการของตลาดและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน
    • เดินหน้าบริการ V-Move, Smart Mobility concept นวัตกรรมที่ใช้รถพลังงานไฟฟ้าเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ ตั้งเป้าพัฒนา 24 โครงการ แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 20 โครงการ และบ้าน 4 โครงการ ตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนได้ไม่ต่ำกว่า 11,720 ตันคาร์บอนต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 1,172,006 ต้น
    • The First EV Ready อสังหาฯ รายแรกของไทยที่ติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ในโครงการบ้านและที่อยู่อาศัย และรวมถึงติดตั้ง EV Station ส่วนกลางรายแรก เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับยานยนต์แห่งอนาคต
    • เดินหน้าพัฒนา Smart Application ต่างๆ ได้แก่ SENA 360 ให้บริการครอบคลุมทุกเรื่องของการซื้อที่อยู่อาศัย, Sen Prop ให้บริการลูกบ้านทุกเรื่องของการอยู่อาศัยในโครงการ และ Smartify Home ผู้ช่วยในการตกแต่งบ้านและคอนโด เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพการอยู่อาศัย

นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย นวัตกรรมทางการเงิน และ พันธมิตรที่แข็งแกร่ง ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญช่วยให้เสนาสามารถปรับตัวและรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคง และเสนาจะเดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนเป็นเรื่องง่ายและเป็นไปได้จริงสำหรับทุกคน

“เสนาไม่ได้มุ่งมั่นแค่การเติบโตทางธุรกิจให้แข็งแกร่งทางการเงินเพื่อความมั่นคงขององค์กรเท่านั้น แต่เรายังเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และคุณภาพชีวิตของผู้คน เรามุ่งสร้างที่อยู่อาศัย ชุมชน และสังคมที่ช่วยลดคาร์บอน ผ่านนวัตกรรมและโซลูชันที่จับต้องได้ สิ่งที่เราภูมิใจที่สุด ไม่ใช่แค่การสร้างและขายบ้าน แต่คือการมอบ ‘Decarbonized Lifestyle’ ให้กับลูกบ้าน เพียงใช้ชีวิตตามปกติ ก็สามารถมีส่วนร่วมในการดูแลโลกได้ ในปีนี้เสนาตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนไม่น้อยกว่า 10,235 ตัน หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 1,020,000 ต้น ควบคู่ไปกับการตั้งเป้าเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่มีข้อจำกัดทางการเงินสามารถเป็นเจ้าของบ้านคุณภาพได้ง่ายขึ้น จำนวน 1,000 ยูนิต ภายใต้โครงการ ‘LivNex เช่าออมบ้าน’ ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยสร้างความมั่นคงในชีวิต เสนาเชื่อว่าความยั่งยืนและการเติบโตทางธุรกิจต้องไปด้วยกัน รายได้สำคัญ การดูแลโลกก็สำคัญไม่แพ้กัน และเราจะเดินหน้าต่อไป ในฐานะ Sustainable Living Leader ที่สร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม” ดร.ยุ้ย-เกษรา กล่าว ทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสารของ บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ ได้ที่ www.facebook.com/senadevelopmentpcl , www.sena.co.th หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1775