SME D Bank เร่งเครื่องยกระดับเอสเอ็มอีไทย สู่ธุรกิจยุคใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบโจทย์อุตสาหกรรมเป้าหมาย เดินหน้าปล่อยสินเชื่อพิเศษ 30,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ควบคู่พัฒนาองค์รวมผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” เชื่อมโยงเครือข่ายภาครัฐ-เอกชนกว่า 50 หน่วยงาน ตั้งเป้ายกระดับกว่า 14,000 กิจการ กระตุ้นเศรษฐกิจไทยเงินหมุนเวียนกว่า 160,000 ล้านบาท
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank จัดกิจกรรมถ่ายทอดนโยบายการสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยในปี 2568 ให้แก่ผู้บริหารและพนักงานทั้งองค์กรกว่า 2,000 คน โดยได้รับเกียรติจากนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มากล่าวปาฐกถาพิเศษถึงนโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีจากรัฐบาล โดยมีผู้บริหาร และพนักงาน SME D Bank ให้การต้อนรับและรับมอบนโยบายณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2568
ทั้งนี้ เพื่อจะสนับสนุนให้เอสเอ็มอี สามารถปรับตัวเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจยุคใหม่ได้อย่างราบรื่น ธนาคารจัดเตรียมบริการด้านเงินทุนและด้านการพัฒนาไว้พร้อมแล้ว สำหรับด้านการเงิน ผ่านโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี รวมถึง สอดคล้องกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ โดยมีจุดเด่นอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3%ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน ได้แก่
1.สินเชื่อ “SME Green Productivity” สำหรับสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการติดตั้งระบบอุปกรณ์ ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต เครื่องจักร อุปกรณ์ เพื่อใช้พลังงานสะอาด และมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว เช่น ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ในอุตสาหกรรมผลิตหรือบริการสีเขียว โรงงาน ร้านอาหาร โรงแรม เพื่อช่วยลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว หรือมีกระบวนการผลิตหรือเทคโนโลยีเชื่อมโยงไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาท
2.สินเชื่อ “ปลุกพลัง SME” สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายเล็กที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 2 ล้านบาท นำไปใช้ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ รวมถึง หมุนเวียน และเสริมสภาพคล่องในธุรกิจ เช่น ร้านโชห่วย/ขายปลีก ร้านอาหาร ธุรกิจดิจิทัล/อิเล็กทรอนิกส์ ร้านขายยา และแฟรนไชส์รายย่อย เป็นต้น วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด 1.5 ล้านบาท
และ 3.สินเชื่อ “Beyond ติดปีก SME” สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป นำไปเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ ปรับเปลี่ยนทรัพย์สินหรือเครื่องจักร เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจ เช่น เกษตรแปรรูป อาหารเพื่อสุขภาพ โรงแรมที่พัก/ร้านอาหารขนาดใหญ่ ธุรกิจนำเข้าติดตั้งเครื่องจักร ธุรกิจบริการดิจิทัล/อิเล็กทรอนิกส์ แฟรนไชส์ เป็นต้น วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท
ส่วนด้านการพัฒนา พร้อมให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ซึ่งธนาคารเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2567 ที่ผ่านมา และมีการพัฒนามาต่อเนื่อง สามารถตอบโจทย์ยกระดับธุรกิจครบวงจร โดยปีนี้ (2568) จะต่อยอดการพัฒนาในหลักสูตรเชิงลึก ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรมากกว่า 50 แห่งที่เข้ามาเชื่อมโยงการสนับสนุน ผู้ประกอบการสามารถใช้บริการได้สะดวกสบาย ตลอด 24 ชม. มีฟีเจอร์สำคัญ ๆ เช่น Business Health Check ระบบตรวจประเมินสุขภาพธุรกิจ , E-Learning รวบรวมหลักสูตรความรู้สำคัญ ช่วยเพิ่มศักยภาพการประกอบธุรกิจ , SME D Coach ที่ปรึกษาและให้คำแนะนำธุรกิจจากโค้ชมืออาชีพ และ Privilege สิทธิประโยชน์เพื่อยกระดับธุรกิจ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีโครงการและกิจกรรมการพัฒนาที่ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและเอกชนต่อเนื่องตลอดทั้งปี มุ่งเติมความรู้เชิงลึก และให้คำปรึกษา มอบเครื่องมือ เพื่อผลักดันให้สามารถยกระดับสู่อุตสาหกรรมสีเขียวอย่างแท้จริง รวมถึง เพิ่มรายได้ และขยายตลาด
นายพิชิต กล่าวเสริมว่า การสนับสนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนที่มีสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ และการพัฒนา จะมีส่วนสำคัญผลักดันให้เอสเอ็มอียกระดับเพิ่มศักยภาพ สร้างการเติบโตทางธุรกิจ เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ ในทุกพื้นที่ ตั้งเป้าปีนี้ (2568) สนับสนุนเข้าถึงแหล่งทุนและยกระดับธุรกิจได้กว่า 14,000 กิจการ รักษาการจ้างงานได้ประมาณ 198,000 คน และสร้างเงินลงทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 160,000 ล้านบาท สามารถแจ้งความประสงค์รับบริการได้ ณ สาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น LINE Official Account : SME Development Bank และเว็บไซต์ www.smebank.co.th เป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357