ธนาคารกสิกรไทย จัดสัมมนาใหญ่แห่งปี K WEALTH Forum หัวข้อ “Five for 2025: FIVE Themes That Will Shape Global Investment Strategies” เจาะลึก 5 ปัจจัยหลักที่กำลังจะเปลี่ยนฉากทัศน์สำคัญของโลกด้านการเงินและการลงทุน นำโดย K WEALTH ศูนย์รวมความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์บริหารความมั่งคั่งครบทุกมิติ ร่วมกับบริษัทด้านการลงทุนชั้นนำระดับโลก J.P. Morgan Asset Management และ Lombard Odier ชี้เศรษฐกิจโลกปีนี้ ยังไปต่อได้ เทคโนโลยี AI ยังมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง จับตานโยบาย America First โดยเฉพาะมาตรการทางการค้าที่ไม่เพียงจะส่งผลต่อประเทศคู่ค้าแต่อาจส่งผลกระทบกับ GDP ของสหรัฐฯ ด้วย พร้อมคาดการณ์ Fed อาจปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้อีก 1-2 ครั้ง เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ในขณะที่ IMF ออกโรงเตือนหนี้สาธารณะท่วมโลก และทั่วโลกยังเผชิญความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ชี้โอกาสการลงทุนในต่างประเทศ แนะธีมลงทุน “GO GLOBAL” และ “Diversification” เพื่อกระจายความเสี่ยง พร้อมติดตามข้อมูลเจาะลึกโอกาสลงทุนในหลากหลายมิติที่เกิดขึ้นทั่วโลกกับ K WEALTH: GO GLOBAL The Series บนช่องทาง Youtube: K WEALTH ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ เป็นต้นไป
“งานสัมมนา K WEALTH Forum ในวันนี้ จึงนำเสนอประเด็นหลักที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และกำลังเปลี่ยนฉากทัศน์สำคัญของโลก นำทีมโดย K WEALTH ซึ่งเป็นศูนย์รวมความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์บริหารความมั่งคั่งของธนาคารกสิกรไทย พร้อมด้วยความเชี่ยวชาญในระดับสากลจากบริษัทชั้นนำระดับโลกทั้ง J.P. Morgan Asset Management และ Lombard Odier เพื่อให้ทุกท่านจัดการเงินลงทุนอย่างมีความสมดุล เหมาะกับสถานการณ์ และที่สำคัญ ตอบโจทย์เป้าหมายในการสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน”
- ประเด็นที่ 1 เทคโนโลยี AI อิทธิพลของ AI เห็นได้ชัดจากราคาหุ้น NVIDIA ที่พุ่งขึ้นมาเกือบ 6 เท่า นับจากการเปิดตัวของ ChatGPT ในปี 2022 ปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 400 ล้านคนต่อสัปดาห์
- ประเด็นที่ 2 America First Policy นโยบายที่ทั่วโลกกังวลมากที่สุดในตอนนี้คือ การขึ้นภาษีนำเข้า แต่ Fed ได้ทำการศึกษาแล้วว่า ทุกๆ 1% ของภาษีที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ GDP ของอเมริกาลดลง 14% แปลว่า America First Policy ไม่ได้กระทบแต่ประเทศคู่ค้า อเมริกาก็ต้องระวังเศรษฐกิจตัวเองด้วย
ธุรกิจส่งออกไทยก็เตรียมทำงานหนักโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ของเราคาดว่าการส่งออกของไทยจะชะลอลงจาก 5.4% ในปีที่แล้วเหลือเพียง 2.5%
- ประเด็นที่ 3 อัตราดอกเบี้ย ช่วงปี 2022-2023 Fed ขึ้นดอกเบี้ย จาก 25% เป็น 5.5% เพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิดเร็วจนเงินเฟ้อพุ่ง และเริ่มลดดอกเบี้ยรวม 1% ในปีที่แล้ว ซึ่งในการประชุมครั้งล่าสุด เมื่อ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา Fed ตัดสินใจคงดอกเบี้ยที่ 4.5% ช่วงที่ Fed ขึ้นดอกเบี้ย กนง. ของไทยก็ขึ้นดอกเบี้ยด้วย แต่ขึ้นน้อยกว่าคือจาก 0.5% เป็น 2.5% และล่าสุด กนง. ลดดอกเบี้ยลงมาที่ 2%
- ประเด็นที่ 4 หนี้สาธารณะ IMF ออกมาเตือนเรื่องวิกฤติหนี้ที่ท่วมโลกหลายครั้ง เพราะหนี้สูงจะทำให้รัฐบาลไม่มีเงินมาใช้เวลาเศรษฐกิจมีปัญหา ล่าสุด หนี้สาธารณะไทยอยู่ที่ 64% ของ GDP และมีโอกาสจะชนเพดานที่ 70% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยสหรัฐฯ มีหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงกว่า 100%
- ประเด็นที่ 5 ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น กรณีรัสเซีย – ยูเครน ที่ผ่านความยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีแล้ว และยังไม่จบสิ้น รวมถึงยุโรป และความคุกรุ่นก็ยังคงอยู่ในตะวันออกกลางและช่องแคบไต้หวัน
ขณะเดียวกัน Mr. Tai Hui, Chief Market Strategist, Asia Pacific of J.P. Morgan Asset Management กล่าวถึงโอกาสในการลงทุนจากกระแส AI ว่าไม่ได้มีเพียงการลงทุนในบริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยี AI โดยตรงเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสในหลายๆ ธุรกิจที่นำ AI มาใช้เพิ่ม Productivity เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ผลิต Hardware ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กระแส AI เติบโตได้อีกในอนาคต สำหรับเรื่องความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ จะต้องพิจารณาผลกระทบต่อแต่ละธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป เช่น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลต่อธุรกิจพลังงานและอาหารในยุโรป แต่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางกลับไม่ได้ส่งผลต่อการผลิตน้ำมันอย่างที่คาดการณ์
สำหรับปัจจัยอัตราดอกเบี้ย คุณศิริพร สุวรรณการ, CFA, CFP, Chief Investment Officer, K WEALTH ธนาคารกสิกรไทย มองว่าอยู่ในวัฎจักรขาลง ธนาคารแห่งประเทศไทยเซอร์ไพรส์ลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 2% ส่วน Fed มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25-4.50% ซึ่งสูงกว่าของไทยประมาณ 2% อาจมองเป็นโอกาสลงทุนใน Money Market ของสหรัฐฯ แต่ควรระวังความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน เพราะหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นมา อาจจะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาด
คุณวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์, CFA, กรรมการผู้จัดการ บลจ. กสิกรไทย เสริมว่า ควรพิจารณาลงทุนในตลาดโลกสำหรับ Core Port เพราะมีโอกาสลงทุนที่กว้างกว่า และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากสินทรัพย์หลายประเภท มีธีมการลงทุนที่อาจไม่มีในประเทศไทย เช่น หุ้นเทคโนโลยี การแพทย์ พลังงานสะอาด นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ตด้วยเครื่องมือการลงทุนหลากหลายที่มีในตลาดโลก เช่น หุ้น ตราสารหนี้ สินทรัพย์ทางเลือก ทำให้มีตัวเลือกหลากหลาย ช่วยบริหารพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
สำหรับโซลูชันด้านการบริหาร Core Port คุณปณตพล ตัณฑวิเชียร, CFA, Chief Investment Officer บลจ. กสิกรไทย แนะนำกลุ่มกองทุน K-WealthPLUS Series และ K-ALLROAD Series ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
K-WealthPLUS Series เป็นกลุ่มกองทุนผสมที่เกิดจากความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partnership) กับบลจ. ชั้นนำระดับโลกอย่าง J.P. Morgan Asset Management ร่วมบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนอย่างใกล้ชิด ผ่านกลยุทธ์กระจายการลงทุน (Asset Allocation) ทั่วโลก ในหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก ซึ่งสามารถรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจได้ดีกว่าการลงทุนแบบกระจุกตัวในสินทรัพย์ประเภทเดียว โดยมีให้เลือก 3 กองทุน ได้แก่ K-WPBALANCED เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการเริ่มลงทุนในต่างประเทศโดยเน้นสัดส่วนของตราสารหนี้มากกว่าหุ้น K-WPSPEEDUP เหมาะกับผู้ลงทุนที่มองหาโอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนของหุ้นได้ตั้งแต่ 50-80% และ K-WPULTIMATE เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูงจากการเพิ่มสัดส่วนของหุ้นได้ตั้งแต่ 80-100%
K-ALLROAD Series เป็นกลุ่มกองทุนที่ได้ร่วมมือกับทาง Lombard Odier โดยกลยุทธ์การลงทุนแบบ ALL ROADS ได้ผ่านการทดสอบในช่วงเวลาต่างๆ ของตลาดมาอย่างยาวนาน ตอบโจทย์การลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว โดดเด่นด้วยกลยุทธ์การบริหารพอร์ตแบบ Risk-Based Allocation หรือ การลงทุนโดยพิจารณาความเสี่ยงของสินทรัพย์เป็นหลัก นั่นคือ ให้น้ำหนักน้อยในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ขณะที่ให้น้ำหนักมากในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ พร้อมกลไกจัดการความเสี่ยงช่วงขาลง (Drawdown management) ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้โยกย้ายสินทรัพย์ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเผชิญสภาวะตลาดที่ผันผวน เพื่อลดผลกระทบที่รุนแรง ซึ่ง K-ALLROAD Series มีความเสี่ยงให้ลูกค้าเลือกได้ถึง 4 ระดับ ได้แก่ K-ALLBASIC, K-ALLRD-UI-A(A), K-ALLGR-UI-A(A) และ K-ALLEN-UI-A(A)
เตรียมพบกับซีรีส์พิเศษ K WEALTH GO GLOBAL The Series ในวันที่โลกเหวี่ยง ตลาดสะเทือน โอกาสลงทุนอยู่ตรงไหน เจาะลึกโอกาสลงทุนหลากหลายมิติที่เกิดขึ้นทั่วโลก ติดตามได้ผ่านช่องทาง Youtube: K WEALTH ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป
*ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน