นันยางเผยโฉมนวัตกรรม สำหรับ Gen Alpha รองเท้า “Have Fun” ไม่ต้องผูกเชือก พร้อมเพิ่มทางเลือกคุ้มค่าด้วยสินค้าราคาประหยัด “Retake และ Retry” แบ่งเบาภาระผู้ปกครอง
นันยาง ประกาศกลยุทธ์รุกตลาดรับเปิดเทอมปี 2568 มุ่งเน้นนวัตกรรมสินค้าและความคุ้มค่า เพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคเศรษฐกิจชะลอตัว โดยยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 45% จากมูลค่าตลาดรองเท้านักเรียนรวมกว่า 5,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องที่ 3-5% ในปีนี้
นันยางยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเพื่อรองรับความต้องการของเด็กนักเรียนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดรองเท้าเด็กกลุ่ม Gen Alpha หรือชั้นประถม นันยางได้ออกแบบรองเท้ารุ่น “Nanyang Have Fun” ที่มีคุณสมบัติเบา นุ่ม และสวมใส่สบายเหมาะกับสรีระของเด็กเล็กอย่างแท้จริง อีกทั้งนวัตกรรมสำคัญในช่วงโควิด-19 ด้วยการพัฒนา “เชือกยืดหยุ่น” ทำให้ไม่ต้องผูกเชือกอีกต่อไป ลดการสัมผัสเชื้อโรคจากรองเท้า 10 เท่า โดยล่าสุดต้อนรับเปิดเทอมปีการศึกษา 2568 นันยางได้เปิดตัว “เชือกยืดหยุ่น 2.0” ด้วยฟังก์ชันพิเศษ “ล็อก – ปลดล็อก” ได้ง่ายยิ่งขึ้น เพิ่มความคล่องตัว ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมการเรียนและการเล่น เพื่อการพัฒนาการอย่างสมวัย
นอกจากนี้เพื่อแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง และตอบโจทย์สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน นันยางได้แนะนำสินค้าเก่าในรูปแบบใหม่ โดยนำรองเท้าที่ไม่ผ่านมาตรฐานด้านความสวยงามแต่ยังคงคุณภาพการใช้งาน 100% กลับมาจำหน่ายใหม่ในราคาพิเศษ ได้แก่ Nanyang Retake (มีตำหนิจากการผลิต) ราคา 269 บาท และ Nanyang Retry (มีรอยเปรอะเปื้อน) ราคา 169 บาท เพื่อลดของเสียจากกระบวนการผลิต และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด Circular Economy ในโครงการ Nanyang Reborn
“คาดการณ์ว่าโครงการ Nanyang Reborn จะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 140,000 kgCO₂e เสมือนการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ 7,000 ต้นในหนึ่งปี หรือการขับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันระยะทางรอบโลกได้ 20 รอบ ซึ่งนอกจากการสร้างทางเลือกที่คุ้มค่าให้ผู้บริโภค ยังเป็นการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ขยายวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ สนับสนุนการผลิตและบริโภคที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น และเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนแนวคิด Circular Economy ของนันยางให้เป็นรูปธรรม” นายชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด กล่าวถึงบทบาทของนันยางในด้านการพัฒนาความยั่งยืน
“แม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่เรามองเห็นโอกาสในการสร้างการเติบโตผ่านความเข้าใจเชิงลึกในพฤติกรรมผู้บริโภค พัฒนาสินค้าที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ และสร้างความแตกต่างผ่านนวัตกรรมที่ไม่เหมือนใคร นี่คือหัวใจของกลยุทธ์นันยางในปีนี้ นอกจากนี้เราจะมีเซอร์ไพรส์สร้างความตื่นเต้นและรอยยิ้มให้กับผู้บริโภคเป็นระยะๆ อย่างแน่นอน” ดร.จักรพล จันทวิมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวถึงแนวทางการขับเคลื่อนตลาดในช่วงเปิดเทอมปี 2568
ปัจจุบันตลาดรองเท้านักเรียนไทยมีผู้เล่นหลักประมาณ 10-15 ราย โดยมีผู้เล่นรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 5 รายในช่วงปีที่ผ่านมา นันยางจึงเร่งขับเคลื่อนกลยุทธ์เชิงรุก ทั้งการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ การสื่อสารแบรนด์ผ่านทุกช่องทาง และการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายอย่างครอบคลุม
ในส่วนของช่องทางการขาย นันยางพร้อมจำหน่ายสินค้าผ่านทั้งร้านค้าทั่วประเทศ ห้างสรรพสินค้า และช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกประเภท รองรับพฤติกรรมการช้อปปิ้งที่เปลี่ยนแปลงไป ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้สะดวก พร้อมรับสิทธิพิเศษและโปรโมชันตามแต่ละช่องทาง เพื่อเพิ่มประสบการณ์การซื้อที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลด้วยกลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรม ควบคู่กับการสร้างสรรค์สินค้าใหม่และตอกย้ำคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ นันยางพร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดรองเท้านักเรียนไทย พร้อมเป็นแบรนด์ขวัญใจคนไทยทุกยุคทุกสมัย