“จระเข้” กางวิสัยทัศน์ปี 68 พลิกเกมวัสดุก่อสร้างสู่ Net Zero เดินหน้านวัตกรรมยั่งยืนเต็มรูปแบบ

“นวัตกรรมไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป หากแต่คือเครื่องมือในการเปลี่ยนโลก” คำกล่าวของนายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด สะท้อนแนวคิดใหม่ของธุรกิจก่อสร้างไทย ที่ไม่ได้มองแค่ “โครงสร้าง” หากแต่หมายรวมถึงการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์

ในปี 2568 “จระเข้ คอร์ปอเรชั่น” ก้าวเข้าสู่ปีที่ 33 อย่างแข็งแกร่ง พร้อมวางเป้าหมายเชิงกลยุทธ์สู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างสีเขียวในระดับภูมิภาค ด้วยเป้าหมายการเติบโต 10% ท่ามกลางภาวะตลาดที่หดตัว ขณะเดียวกันยังประกาศวิสัยทัศน์ “Sustainable Building Innovation” ยกระดับองค์กรทั้งระบบสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และ Net Zero ภายในปี 2065 เป็นครั้งแรก

เดินหน้าพลิกโฉม “วัสดุก่อสร้าง” สู่คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม

ด้วยการครองมาร์เก็ตแชร์กว่า 50% ในตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนว บริษัทฯ ไม่เพียงตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์ปูกระเบื้อง แต่ยังรุกต่อยอดสู่ตลาดสีและเคมีก่อสร้าง ผ่านแบรนด์ “SEE JORAKAY” ที่เติบโตถึง 35% และพอร์ตผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้างที่เติบโตถึง 15% ในปีที่ผ่านมา สินค้าหลักยังรวมถึงกลุ่มวัสดุตกแต่งและน้ำยา ที่กำลังถูกปรับทิศทางสู่สินค้ากลุ่ม Green Products อย่างเป็นรูปธรรม

ดร.จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส เผยว่า ภายใต้กรอบแนวคิด “Jorakay Innovation & Expert Solution” บริษัทฯ พัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการใหม่ของผู้บริโภค ซึ่งในยุคนี้ไม่ใช่เพียงความแข็งแรง หากต้องครอบคลุมความปลอดภัย สุขภาวะ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมล่าสุด เช่น “Crocodile Road Fix Express” มอร์ตาร์ซ่อมถนนชนิดบางที่คว้ารางวัลนวัตกรรมลดโลกร้อน และ “Dustless Technology” ในกาวซีเมนต์ 8 รุ่นที่ช่วยลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นถึง 80% ล้วนสะท้อนทิศทางใหม่ของวัสดุก่อสร้างไทย

เป้าหมาย “Net Zero” ไม่ใช่แค่ภาพฝัน

“ความยั่งยืนไม่ใช่เทรนด์ แต่คือข้อเท็จจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” นายศุภพงษ์ย้ำ พร้อมประกาศแผนปฏิบัติการ 5SD ภายใต้ Jorakay Sustainability Framework ที่ครอบคลุมการลด CO₂ ขยะ สารพิษ ฝุ่น เพิ่มสัดส่วน Green Products และส่งเสริมคุณภาพชีวิต โดยปัจจุบันสินค้า Green Products ของจระเข้มีสัดส่วนสูงถึง 63% จากสินค้าทั้งหมด

โรงงานและศูนย์กระจายสินค้าใน จ.สระบุรี รวมถึงสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แล้ว ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 600 ตันคาร์บอนฯ/ปี หรือคิดเป็น 30% ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมดต่อปี

โอกาสตลาดใน-นอกประเทศหนุนโตต่อเนื่อง

ปี 2568 บริษัทตั้งเป้ารายได้จากตลาดในประเทศ 90% และตลาดต่างประเทศ 10% พร้อมขยายสู่ CLMV อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในเวียดนามและกัมพูชาที่กำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ปัจจุบันรายได้จากต่างประเทศคิดเป็น 10% โดยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 15% ภายในปี 2570

กลยุทธ์ที่จระเข้นำมาใช้ ได้แก่ การร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น การปรับผลิตภัณฑ์ให้ตรงความต้องการของแต่ละประเทศ รวมถึงการสร้างฐานธุรกิจภูมิภาค เพื่อปูรากฐานระยะยาวในการแข่งขันอย่างยั่งยืน

โชว์ศักยภาพงาน “สถาปนิก’68” ภายใต้ธีม “Build Today, Beyond Tomorrow”

ในงานสถาปนิก’68 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 เม.ย. – 4 พ.ค. นี้ จระเข้จัดแสดง “JORAKAY PAVILION” ภายใต้ธีม “ที่สุดของนวัตกรรม เพื่อพรุ่งนี้ที่ยั่งยืนกว่า” ผ่าน 6 โซนไฮไลต์ ได้แก่

  • Flooring Innovation – นวัตกรรมงานพื้น
  • Structure Innovation – โครงสร้างคุณภาพสูง
  • Tiling Innovation – เทคโนโลยีลดฝุ่นจากกาวซีเมนต์
  • Waterproof Innovation – งานกันซึมครบวงจร
  • SEE JORAKAY – สีปลอดภัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • Beyond Tomorrow – พื้นที่แสดง JORAKAY SUSTAINABILITY FRAMEWORK

นอกจากนี้ ยังมีเวที Jorakay Expert Talk ที่รวมผู้เชี่ยวชาญจากหลายวงการ ร่วมแบ่งปันมุมมองด้านการออกแบบและการก่อสร้างเพื่ออนาคต

นายวรพจน์ ตั้งมนัสวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด กล่าวว่า “จระเข้ไม่ได้มองเพียงการขายผลิตภัณฑ์ แต่ต้องการเป็นพาร์ตเนอร์สำคัญของสถาปนิก นักออกแบบ ผู้รับเหมา และผู้บริโภค ในการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพและรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ เราทุกคนสามารถเลือกที่จะ ‘สร้างพรุ่งนี้ที่ยั่งยืนกว่า’ ไปด้วยกัน”

จากความสำเร็จตลอด 33 ปี วันนี้จระเข้ไม่ได้เพียงสร้าง “โครงสร้าง” หากกำลังวางรากฐานของ “อนาคตที่ยั่งยืน” ให้กับทั้งคนและโลกอย่างจริงจัง

 

#BuildTodayBeyondTomorrow#JORAKAY#jorakaycorporation#JorakayExpert#จระเข้#สถาปนิก68Architect’25
Comments (0)
Add Comment