“พรีโม” โชว์รายได้ Q1/68 ทะลุ 350 ล้าน เดินหน้ากลยุทธ์เติบโตยั่งยืน ปันผล 0.3125 บาทต่อหุ้น

35

พรีโม กรุ๊ป รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2568 กวาดรายได้รวม 350 ล้านบาท กำไรสุทธิ 39 ล้านบาท มั่นใจทั้งปีแตะเป้ารายได้ 1,850 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์ “Focus On Core Optimize for Sustainable Growth” ขับเคลื่อนด้วยกลุ่มธุรกิจ Living & Earning Service พร้อมอนุมัติจ่ายปันผลผู้ถือหุ้น 0.3125 บาท/หุ้น จ่าย 16 มิ.ย.นี้

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด หรือ PRI ผู้นำธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 (ม.ค.-มี.ค.) ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 350 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 39 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้วางรากฐานการสร้างรายได้ต่อเนื่องทุกกลุ่มบริการอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และมีการขยายกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ส่งผลให้สามารถดูแล และนำเสนอแพ็คเกจบริการครบวงจรแบบ All-in-One ที่ครอบคลุมทุกด้านของความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ไฮไลต์กลุ่มธุรกิจเด่น คือ Living & Earning Service เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเติบโตของรายได้ โดยมีเป้าหมายรายได้ปี 2568 ที่ 1,850 ล้านบาท

ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทสูงสุดในไตรมาส 1/2568 เป็นกลุ่มธุรกิจปลายน้ำ-บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) โดยมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าว 162 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ 46% ของรายได้รวม

บริษัทยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผน “Focus On Core” Optimize for Sustainable Growth มุ่งเน้นในการสร้างความเข้มแข็งเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่าน 3 แกนสำคัญประกอบด้วย 1.มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพและการส่งมอบบริการ (Committing to Quality) มุ่งมั่นพัฒนากระบวนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบบริการคุณภาพสูงให้กับลูกค้า โดยมีการปรับกระบวนการให้มีความเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ ทำให้การดำเนินงานมีความคล่องตัว ให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นหรือการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด 2.สร้างสมดุลและความหลากหลายในกลุ่มลูกค้า (Diversify and Expand Customer Segment) มุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าให้หลากหลายและสมดุลในทุกธุรกิจ ทั้ง โครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม โรงงาน ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ 3.ใช้จุดแข็งในการสร้างตลาดและรายได้ (Leveraging Competitive Advantage) ใช้จุดแข็งและความเชี่ยวชาญของพรีโมในด้านความครบวงจรจากบริษัทในเครือทั้งหมดให้บริการที่ครบวงจรเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้โดยนำเสนอแพ็กเกจแบบ All-in-One Service บริการครบวงจรแบบ All-in-One เพื่อเพิ่มศักยภาพรายได้สูงสุด บูรณาการบริการ อย่างไร้รอยต่อระหว่างทุกหน่วยธุรกิจภายในบริษัท พร้อมครอบคลุมทุกด้านของความต้องการของลูกค้าโดยผสานระบบอย่างไร้รอยต่อ

“พรีโมเราตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2568 โดยเน้นการ Diversify ธุรกิจและปรับปรุงคุณภาพการบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสร้างผลกำไรที่มั่นคงในระยะยาว มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรด้วยมาตรฐานและคุณภาพในทุกกระบวนการบริการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า สร้างความเชื่อมั่น ความพึงพอใจ และความไว้วางใจอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างความแข็งแกร่งจากกระบวนการทำงานที่มีมาตรฐาน การพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบบริการที่เป็นเลิศที่นอกจากบริการในทุกมิติแล้ว พรีโม พร้อมมอบความสุขให้คนทุก Generation ตลอดช่วงชีวิตภายใต้นิยาม Happy Maker for All ที่เรามุ่งมั่นตั้งใจทำมาโดยตลอด ในฐานะผู้ให้บริการและบริหารอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศไทยอย่าง ‘เข้าใจ ห่วงใย ใส่ใจ และทำออกมาจากใจเรา’ ด้วยความเป็นมืออาชีพ…อุ่นใจทุกวัน เลือกให้ พรีโม ดูแล” นายสุรินทร์ กล่าวในตอนท้าย

พร้อมกันนี้ จากผลการดำเนินงานและผลกำไรที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบให้จ่ายปันผลสำหรับ
ผลการดำเนินงานและผลกำไร ให้แก่ผู้ถือหน่วยในอัตรา 0.3125 บาทต่อหุ้น โดยจะมีการประกาศขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิรับเงินปันผล (XD) ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date)
ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินออกให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 16 มิถุนายน 2568

บริษัทฯ มั่นใจว่าผลประกอบการทั้งปี 2568 จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีแผนขยายบริการไปยังโครงการอสังหาฯ นอกเครือเพิ่มเติม และลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น