‘กลุ่มมโนธรรมรักษา’ เร่งขยายพอร์ตอสังหาฯ หาดในทอน สร้าง ‘Mini Laguna’ รองรับดีมานด์ต่างชาติ ดึงทุนจีน-แบรนด์โรงแรมระดับโลกปั้นโปรเจกต์พันล้าน

56

“กลุ่มมโนธรรมรักษา” ปูพรมลงทุนอสังหาฯ ย่านหาดในทอน จังหวัดภูเก็ต วางเป้าสร้างอาณาจักร “Mini Laguna” บนที่ดิน 80 ไร่ ต่อยอดจากฐานแลนด์ลอร์ดในพื้นที่ ดึงทุนจีน-เชนโรงแรมระดับโลกร่วมพัฒนาโครงการคอนโดฯ และวิลล่าหรู รวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท รับดีมานด์ต่างชาติทะลัก โดยเฉพาะกลุ่มรัสเซีย-ยุโรป

นายวีระวิทย์ มโนธรรมรักษา รองประธานกรรมการ บริษัท บีสตาร์ท เฮฟเว่น จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือกลุ่มมโนธรรมรักษา เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาฯ บนที่ดินกว่า 80 ไร่บริเวณ “หาดในทอน” จ.ภูเก็ต ซึ่งถือเป็นโซนศักยภาพใหม่ที่กำลังเติบโตจากความสงบ เงียบ เป็นธรรมชาติ และอยู่ใกล้สนามบินนานาชาติ โดยเป้าหมายระยะยาวคือการพัฒนาให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็น “Mini Laguna” หรือศูนย์กลางที่พักอาศัย-การท่องเที่ยวครบวงจรคล้ายย่านลากูน่าภูเก็ต แต่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า และเหมาะกับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ต่างชาติที่ต้องการอยู่อาศัยระยะยาว

นายวีระวิทย์ มโนธรรมรักษา

ทุนจีน-เชน WYNDHAM เสริมแกร่งการลงทุน

บริษัทได้ร่วมทุนกับกลุ่มทุนจีน “Bestart International Holdings” พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ “Seaheaven Phuket Naithon” โดยมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 1,500 ล้านบาท (เฟส 1-2) ซึ่งเฟสแรกขายหมดแล้ว ส่วนเฟส 2 จำหน่ายไปแล้วกว่า 72% ในราคาปรับขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันสูงสุดแตะ 170,000 บาท/ตร.ม.

โครงการยังได้จับมือกับเชนโรงแรมระดับโลก “WYNDHAM” เข้ามาบริหารโครงการ เสริมความน่าเชื่อถือและเพิ่มทางเลือกในการลงทุนระยะยาว พร้อมการันตีผลตอบแทน 7% ต่อปี ล่าสุด ได้เปิดตัว “Seaheaven เฟส 3” คอนโดฯ ใหม่ 2 อาคาร มูลค่า 1,400 ล้านบาท โดยเฟสแรกขายไปแล้ว 69% ขณะที่เฟสถัดไปจะเปิดตัวช่วงปลายปี 2568

วิลล่าหรู 500-800 ล้าน รองรับดีมานด์อยู่อาศัย

นอกจากโครงการคอนโดฯ แล้ว กลุ่มมโนธรรมรักษายังต่อยอดพัฒนาวิลล่าหรู โดยเปิดตัว “ภูวิสต้า วิลล่า” มูลค่า 500 ล้านบาท มีเพียง 10 ยูนิต ราคา 32-72 ล้านบาท ปัจจุบันจำหน่ายไปแล้ว 8 ยูนิต โดยลูกค้าหลักเป็นกลุ่มรัสเซียและยุโรป ขณะที่อีกหนึ่งโครงการใหม่ “ภูวิสต้า แอร์พอร์ต” บนที่ดินกว่า 15 ไร่ บริเวณหาดในยาง กำลังจะเปิดพรีเซลในเดือนพฤษภาคม 2568 รวมมูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท มีทั้งหมด 44 ยูนิต

แผนปี 2569 เตรียมเปิดคอนโดฯ “Saint Tropez”

สำหรับปี 2569 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ในทำเลเดียวกัน คือ “แซง โทเปซ” (Saint Tropez) คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 7 ชั้น มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท จำนวน 100 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.5-6 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์กลุ่มตลาดต่างชาติที่มองหาที่พักตากอากาศขนาดกะทัดรัด ราคาจับต้องได้

เป็นแลนด์ลอร์ดย่านในทอน เตรียมต่อยอดสู่ Mixed-use

นายวีระวิทย์ ระบุว่า พื้นที่ 80 ไร่บริเวณหาดในทอน เป็นที่ดินที่ครอบครัวมโนธรรมรักษาซื้อสะสมมาอย่างต่อเนื่องในช่วงกว่า 10 ปี ทั้งแบบซื้อขาดและเช่าระยะยาว โดยถือเป็นผู้ถือครองรายใหญ่ที่สุดในย่านนี้ และเริ่มพัฒนาอสังหาฯ มาตั้งแต่ปี 2562 ทั้งอาคารพาณิชย์ โรงแรม และร้านค้า ก่อนต่อยอดสู่คอนโดฯ และวิลล่า

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการต่อยอดในรูปแบบ “มิกซ์ยูส” ในอนาคต เช่น ศูนย์สุขภาพ ร้านอาหาร หรือรีเทล เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยระยะยาวมากขึ้น

สร้างมาตรฐานใหม่ด้านความปลอดภัย

ในประเด็นเรื่องภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะแผ่นดินไหวและสึนามิ บริษัทให้ความสำคัญด้านโครงสร้างอาคาร โดยใช้ระบบก่อสร้างที่รองรับแผ่นดินไหวได้ถึง 7.7 แมกนิจูด และออกแบบให้พื้นที่อยู่ในแนวเขาป้องกันธรรมชาติ พร้อมรับการแจ้งเตือนภัยจากระบบของรัฐอย่างใกล้ชิด