ไทยประกันชีวิต เดินหน้าเชิงรุก สร้างระบบนิเวศดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร จับมือพันธมิตรชั้นนำทั้ง “เอไซ (ประเทศไทย)” ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะสมองเสื่อมจากญี่ปุ่น และเครือข่ายเนอร์สซิ่งโฮม 16 แห่งทั่วประเทศ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “Health Fit Senior CI” ประกันชีวิตและสุขภาพที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับกลุ่ม Silver Age (อายุ 55 ปีขึ้นไป) ตอบโจทย์ชีวิตสูงวัยอย่างไร้กังวล พร้อมขยายเครือข่ายดูแล-สิทธิประโยชน์ครอบคลุมทั่วประเทศ
นายเด่นพงษ์ เจษฎาวิริยะ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ) หรือ TLI เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าตามวิสัยทัศน์การเป็น Life Solutions Provider ที่ดูแลลูกค้าแบบครบวงจรใน 3 มิติ ได้แก่ Health – Wealth – Life โดยในกลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Hyper Aged Society) ไทยประกันชีวิตมองเห็นโอกาสในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิต
ไทยประกันชีวิตได้ขับเคลื่อนโรดแมป “Transforming Tomorrow” ตั้งแต่ปี 2565 และกำลังก้าวสู่ระยะที่สอง “Sustainable Tomorrow” โดยมีเป้าหมายยกระดับจากธุรกิจประกันสู่การเป็นผู้ให้บริการดูแลชีวิตครบวงจร (Life Solutions Provider) ซึ่ง “กลุ่มผู้สูงวัย” หรือ Silver Age (อายุ 55 ปีขึ้นไป) ถือเป็นเป้าหมายหลักในการเติบโตระยะยาว
Health Fit Senior CI เป็นแบบประกันที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุยุคใหม่ สมัครได้ตั้งแต่อายุ 40-80 ปี ครอบคลุมความคุ้มครองชีวิต โรคร้ายแรง อุบัติเหตุ รวมถึงการตรวจคัดกรองภาวะสมองเสื่อม พร้อมรับเงินผลประโยชน์รายเดือนสูงสุด 6 ล้านบาทนาน 120 เดือน และค่าชดเชยกรณีเจ็บป่วยเรื้อรังหรือกระดูกแตกหักจากอุบัติเหตุ
ไฮไลต์สำคัญคือ ความร่วมมือกับพันธมิตร เช่น เอไซ (ประเทศไทย) ในการคัดกรองความเสี่ยงสมองเสื่อมด้วยระบบ CogMate™ และเครือข่าย เนอร์สซิ่งโฮมชั้นนำ 16 แห่ง อาทิ เฌ้อสเซอรี่ โฮม, เดอะซีเนียร์, คิน รีแฮพ แอนด์ โฮมแคร์ ฯลฯ เพื่อให้บริการดูแลระยะยาว พร้อมสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ส่วนลดค่ารักษา โปรแกรมตรวจสุขภาพ และบริการดูแลที่บ้าน
นอกจากนี้ ลูกค้าไทยประกันชีวิตที่ซื้อผลิตภัณฑ์ ไทยประกันชีวิต Health Fit Senior CI ยังได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ภายใต้แคมเปญ Senior Well Being ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ให้มีทั้งสุขภาพที่ดี ทั้งร่างกายและจิตใจผ่านสิทธิพิเศษต่างๆ ทั้งบริการตรวจสุขภาพ ส่วนลดร้านค้า และอื่นๆ โดยกดรับสิทธิ์ผ่าน แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต
ปัจจุบัน ไทยประกันชีวิตมีพันธมิตรเนอร์สซิ่งโฮม 16 แห่ง เช่น เฌอส์เซอรี่ โฮม, เดอะซีเนียร์, คิน รีแฮพ แอนด์ โฮมแคร์ ฯลฯ พร้อมสิทธิพิเศษ เช่น ส่วนลดค่ารักษา โปรแกรมตรวจสุขภาพ และบริการดูแลที่บ้าน โดยมีแผนจะขยายเครือข่ายเป็น ไม่ต่ำกว่า 30 แห่งภายในปี 2570 ครอบคลุมจังหวัดเป้าหมาย ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน และภูเก็ต ซึ่งมีแนวโน้มการตั้งถิ่นฐานของผู้เกษียณและชาวต่างชาติสูงขึ้น
พร้อมกันนี้ ไทยประกันชีวิตยังอยู่ระหว่างเจรจาความร่วมมือเพิ่มเติมกับโรงพยาบาลเอกชนและศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ “บ้านพักระยะยาวสำหรับผู้สูงวัย” (Long-Term Senior Care Living) ร่วมกับพันธมิตรด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างระบบรองรับผู้สูงอายุระยะยาวครบวงจร
ไทยประกันชีวิตตั้งเป้าให้เบี้ยประกันสุขภาพเติบโตแตะ 25% ของเบี้ยรวมภายในปี 2570 จากปัจจุบันที่อยู่ราว 15–17% โดยอาศัยการพัฒนาผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม ควบคู่กับการสร้างพันธมิตรคุณภาพเพื่อรองรับความต้องการของสังคมผู้สูงวัยอย่างยั่งยืน
“ในอีก 5 ปีข้างหน้า ผู้สูงอายุจะไม่ใช่แค่ลูกค้า แต่จะเป็นศูนย์กลางของธุรกิจสุขภาพ ทั้งประกัน บริการทางการแพทย์ ที่พัก และการเงิน Ecosystem ที่เชื่อมโยงทั้งหมดนี้จะเป็น New S-Curve ของไทยประกันชีวิต” นายเด่นพงษ์กล่าว
ด้าน เภสัชกร ณัฐพันธุ์ นิมมานพัชรินทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไซ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านโรคสมองเสื่อมมายาวนาน โดยการร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ความรู้จากญี่ปุ่นสามารถเข้าถึงผู้สูงอายุไทยได้มากขึ้นผ่านเทคโนโลยี CogMate™ ซึ่งออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถประเมินสภาพสมองเบื้องต้นด้วยตนเอง พร้อมรับสิทธิพิเศษจากแคมเปญ “Senior Well Being” ที่ไทยประกันชีวิตดูแลร่วมด้วย
“ข้อมูลจากญี่ปุ่นพบว่า หากสามารถวินิจฉัยโรคสมองเสื่อมได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และบริหารจัดการพฤติกรรมอย่างเหมาะสม จะช่วยชะลอการเสื่อมของสมองได้นานกว่า 5 ปี”
นพ.เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ นายกสมาคมการค้าและการบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย (SHSTA) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจประกัน ภาคเอกชน และองค์กรวิชาชีพ เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการยกระดับระบบดูแลผู้สูงอายุไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล
“เรากำลังผลักดันให้เกิด ‘มาตรฐานกลาง’ สำหรับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่นมีกฎหมาย LTCI (Long-Term Care Insurance) ซึ่งจะเอื้อต่อการสร้างประกันสุขภาพระยะยาวที่มีประสิทธิภาพ และลดภาระงบประมาณของรัฐในระยะยาว”
สังคมสูงวัยไม่ใช่แค่ความท้าทายด้านสาธารณสุข แต่กำลังกลายเป็น “New S-Curve” ของธุรกิจไทยในอนาคต โดยเฉพาะธุรกิจประกัน สุขภาพ การดูแล และอสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้สูงวัย ซึ่งจะมีมูลค่าหลายแสนล้านบาทในทศวรรษหน้า
ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แอปฯ “ไทยประกันชีวิต” หรือสอบถามที่ไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ โทร. 1124