เรนวูด ปาร์ค ผุดโมเดล “เมืองรับวิกฤต” พลิกโฉมที่อยู่อาศัยไทย ด้วยแนวคิด Visionary Living
เรนวูด ปาร์ค (Reignwood Park) โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ระดับเมกะโปรเจกต์ โดยกลุ่มเรนวูด กรุ๊ป ประกาศวิสัยทัศน์การพัฒนาเมืองแห่งอนาคต ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคหลังวิกฤต COVID-19 และภัยธรรมชาติ ผ่านแนวคิด “The World Class Community for Multigenerational Living” พร้อมจัดเวทีเสวนา “จากวิกฤต…สู่ชีวิตที่มองไกล” (From Crisis to Visionary Living 2025) ตอกย้ำบทบาทผู้นำอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งสร้าง “เมืองต้นแบบ” ที่พร้อมรับมือทุกวิกฤตด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ พลังงานสะอาด และแนวทาง ESG ครบวงจร
วางรากฐาน “เมืองเพื่ออนาคต” รับมือวิกฤตทุกระดับ
นางสาววรพนิต รวยรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เรนวูด กรุ๊ป เปิดเผยว่า เรนวูด ปาร์ค ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านคุณภาพชีวิตในทุกมิติ โดยเน้นการสร้างระบบนิเวศแห่งการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน รองรับการใช้ชีวิตหลากหลายเจเนอเรชัน ทั้งด้านสุขภาวะ ความปลอดภัย พลังงาน และสิ่งแวดล้อม
“เราเชื่อว่าการสร้างเมืองในวันนี้ ต้องคิดถึงปัญหาของวันข้างหน้า เรนวูด ปาร์ค จึงออกแบบให้พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน ตั้งแต่แผ่นดินไหว ไฟฟ้าดับ น้ำท่วม ไปจนถึงวิกฤตพลังงาน ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคง และระบบบริการที่ยืดหยุ่น เหมือนอยู่ในเมืองที่มีทุกอย่างพร้อม แม้โลกภายนอกจะเผชิญปัญหา”
หัวใจของโครงการคือพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่ (คิดเป็น 35% ของพื้นที่ทั้งหมด) พร้อมระบบพลังงานสะอาด ทั้ง Solar Floating ขนาด 2 เมกะวัตต์ และ Solar Cell อีก 16 จุด ช่วยลดต้นทุนค่าไฟไปแล้วกว่า 5 ล้านบาทในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568
ออกแบบโครงสร้าง-ระบบสาธารณูปโภคระดับวิศวกรรมสูงสุด
ด้าน รศ.ดร.โชติชัย เจริญงาม ผู้อำนวยการพัฒนาโครงการ เรนวูด ปาร์ค ระบุว่า เรนวูด ปาร์ค ยึดแนวทางการพัฒนาแบบ “Proactive Infrastructure” โดยวางโครงสร้างเพื่อป้องกันปัญหาในระยะยาว อาทิ การใช้เสาเข็มยาวรองรับดินอ่อน ระบบบำบัดน้ำเสียครอบคลุมทุกโซน ระบบสำรองน้ำสะอาด และเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยน้ำ ซึ่งสามารถจ่ายไฟให้ทั้งเมืองได้ในกรณีเกิดภาวะฉุกเฉิน
“เราออกแบบเมืองโดยใช้หลัก SDGs ตั้งแต่ต้น ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ ไปจนถึงความสามารถในการฟื้นตัวจากภัยพิบัติ เหมือนวางแนวป้องกันล่วงหน้าก่อนจะเกิดเหตุ ซึ่งเหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดก็พิสูจน์แล้วว่าแนวคิดของเราถูกต้อง”
ยกระดับคุณภาพชีวิต ผ่านแนวคิด Inclusive Community
เรนวูด ปาร์ค ยังเน้นการพัฒนาชุมชนอย่างสมดุล โดยจัดโซนใช้งานแยกชัดเจน ทั้งโซนอยู่อาศัย โซนบริการ และโซนสาธารณะ เพื่อเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่โดยรอบสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ เช่น วิ่งออกกำลังกาย ทำตลาดชุมชน หรือส่งเสริมเกษตรปลอดภัยในพื้นที่ ขณะเดียวกันยังติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี เช่น กล้อง CCTV กว่า 650 ตัว โดรนรักษาความปลอดภัย และระบบ AI วิเคราะห์ความเสี่ยง
ด้านการดูแลผู้อยู่อาศัย เรนวูด ปาร์คมีบริการ One-Stop Service แบบเชิงรุก (Proactive After-Sales) พร้อมระบบแจ้งเตือนภัย ระบบอากาศบริสุทธิ์ และโครงสร้างที่สามารถทนแรงแผ่นดินไหวได้ไม่น้อยกว่า 7 ริกเตอร์ เพื่อให้ลูกบ้านมั่นใจได้ว่าไม่ว่าภายนอกจะเกิดอะไรขึ้น ชีวิตภายในยังคงราบรื่นและปลอดภัย
ผนึกพันธมิตรระดับโลก – เชื่อมระบบเศรษฐกิจในพื้นที่
เรนวูด ปาร์ค ยังร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ บริษัท ฤทธา จำกัด, A49, PIA Interior, Wentworth Golf Club และ Four Seasons Hotel London เพื่อนำองค์ความรู้ด้านดีไซน์ การบริการ และการบริหารจัดการระดับโลก มาพัฒนาโครงการในไทย สร้างมาตรฐานใหม่ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระดับประเทศ
ขณะเดียวกัน โครงการยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการจ้างงาน การสร้างมูลค่าเพิ่มให้พื้นที่ การบริจาคที่ดินเพื่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยขนาด 100 เมกะวัตต์ และการจัดหาอุปกรณ์บรรเทาน้ำท่วมเพื่อช่วยเหลือชุมชนรอบข้าง
เชื่อมเป้ายุทธศาสตร์จังหวัด – ยกระดับลำลูกกาสู่เมืองคุณภาพ
ทั้งนี้ โครงการ เรนวูด ปาร์ค ตั้งอยู่ในพื้นที่ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของจังหวัดที่มีแผนพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางที่อยู่อาศัยคุณภาพและระบบสาธารณูปโภคครบครัน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดปี 2566–2570 ที่มุ่งสร้างเมืองสมดุลทั้งเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกช่วงวัย
เรนวูด ปาร์ค จึงเป็นมากกว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นต้นแบบของเมืองอัจฉริยะที่ออกแบบบนหลักคิดของความยั่งยืน ความมั่นคง และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง