Xiaomi บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีน เดินหน้ารุกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มกำลัง เปิดตัว Xiaomi YU7 รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 พร้อมสร้างกระแสฮือฮาด้วยยอดจองทะลุ 290,000 คันภายใน 1 ชั่วโมง หลังเปิดระบบพรีออเดอร์ในประเทศจีน
YU7 ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถ SUV ไฟฟ้าระดับกลาง (D-Segment) ที่เน้นความครบเครื่อง ทั้งด้านดีไซน์พรีเมียม สมรรถนะระดับสูง และเทคโนโลยีล้ำสมัย ในราคาที่สามารถแข่งขันกับ Tesla Model Y ได้อย่างตรงจุด
+++ ดีไซน์ Fastback – ภาพลักษณ์สปอร์ตพรีเมียม
YU7 ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Modern EV for Everyone” โดยเน้นความเรียบหรูแบบยุโรป ผสมความโฉบเฉี่ยวของสไตล์ Fastback ด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (Cd) เพียง 0.245 ซึ่งใกล้เคียงรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าระดับไฮเอนด์
ตัวรถมีขนาดมิติเพียงเล็กน้อยใกล้เคียงกับ SUV ขนาดกลาง: ยาว 4,999 มม. กว้าง 1,996 มม. สูง 1,600 มม. และระยะฐานล้อ 3,000 มม. ภายนอกตกแต่งด้วยไฟหน้าเรียวทรงหยดน้ำ มือจับประตูแบบเรียบ flush และหลังคาลาดแนว coupe เพื่อความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์
+++ สมรรถนะเหนือระดับ – ขับสนุก วิ่งไกล ชาร์จเร็ว
Xiaomi YU7 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่:
- Standard (RWD): กำลัง 320 PS เร่ง 0–100 กม./ชม. ภายใน 9 วินาที วิ่งได้ไกลสูงสุด 835 กม. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน CLTC)
- Pro (AWD): กำลัง 496 PS เร่ง 0–100 กม./ชม. ใน 27 วินาที
- Max (AWD): กำลังสูงสุด 690 PS เร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ใน 23 วินาที ทำให้เป็น SUV ไฟฟ้ารุ่นหนึ่งที่เร็วที่สุดในตลาด
แบตเตอรี่รุ่น Max และ Pro ใช้เทคโนโลยี 800V รองรับการชาร์จด่วน 10–80% ภายในเพียง 12 นาที หรือสามารถเพิ่มระยะวิ่งได้ถึง 620 กม. ในเวลา 15 นาที
+++ ภายในหรู–เทคโนโลยีครบ–เชื่อม Ecosystem เต็มรูปแบบ
ห้องโดยสารของ YU7 ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยใช้วัสดุเกรดพรีเมียม เช่น หนัง Nappa, ผิวสัมผัส OEKO-TEX Class 1 และเบาะนั่งคู่หน้าที่มีระบบนวด 10 จุด พร้อมฟังก์ชัน Zero Gravity เบาะหลังสามารถปรับเอนได้สูงสุด 135 องศา
ด้านเทคโนโลยีมาพร้อม:
- หน้าจอ Panoramic HUD ขนาดใหญ่ 1 เมตร แบบ Mini-LED
- จอสัมผัสกลาง 1 นิ้ว
- ระบบปฏิบัติการ HyperOS + ผู้ช่วย AI XiaoAi
- รองรับ Apple CarPlay, iPhone UWB, Apple Watch Remote
- กล้อง 4K แบบ gimbal บนกระจกมองหลัง
- Gesture Control และระบบสั่งงานด้วยเสียงหลายโซน
+++ ระบบขับขี่อัตโนมัติขั้นสูงด้วยชิป AI ระดับโลก
Xiaomi YU7 ติดตั้งระบบช่วยขับอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยชิป NVIDIA DRIVE AGX Thor ประสิทธิภาพ 700 TOPS พร้อมกล้อง 11 ตัว, LiDAR, เรดาร์ 4D และ ultrasonic sensor อีก 12 จุด ทำให้สามารถรองรับระบบช่วยขับขั้นสูงแบบ end-to-end พร้อมอัปเดต OTA ได้ตลอดอายุการใช้งาน
Xiaomi ยังฝังคลังข้อมูล AI จากคลิปการขับขี่จริงกว่า 10 ล้านรายการ เพื่อเสริมความแม่นยำของระบบในการตอบสนองต่อสถานการณ์จริงบนถนน
+++ ชูจุดเด่นเหนือคู่แข่ง–พร้อมดึงกลุ่มผู้ใช้ใหม่สู่แบรนด์
ราคาจำหน่ายในจีนเริ่มต้นที่ 253,500 หยวน (ประมาณ 1.34 ล้านบาท) ในรุ่น Standard และสูงสุด 329,900 หยวน สำหรับรุ่น Max ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่แข่งขันได้สูง เมื่อเทียบกับ Tesla Model Y ซึ่งมีราคาตั้งแต่ 263,500 หยวนขึ้นไป
+++ กลยุทธ์เชิงรุก–ยึดฐานจีนก่อนลุยตลาดโลก
Xiaomi ใช้แนวทางการตลาดแบบผสมผสาน โดยเน้น 3 แกนหลัก ได้แก่:
- สร้างฐานความเชื่อมั่นในจีน: เปิดตัว YU7 พร้อมโปรโมชั่นจองล่วงหน้าดึงความสนใจตลาดแมสมาร์เก็ต
- ผสาน Ecosystem อัจฉริยะ: สร้างจุดขายด้วยการเชื่อมโยง Human × Car × Home ผ่านระบบ IoT กว่า 600 ล้านอุปกรณ์ทั่วโลก
- ขยายสู่ตลาดโลกภายในปี 2027: โดยมีเป้าหมายเป็น 1 ใน 5 ผู้ผลิต EV รายใหญ่ที่สุดภายในปี 2030
Lei Jun ซีอีโอของ Xiaomi เคยประกาศไว้ว่า บริษัทยินดีลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 10 ปี เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม EV ภายใต้แนวคิด “Tech × Auto” และจะไม่หยุดที่การเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟน
+++บทสรุป: Xiaomi YU7 ไม่ใช่แค่คู่แข่ง Tesla แต่เป็นผู้ท้าชิงที่มีแต้มต่อในยุค EV
YU7 สะท้อนถึงศักยภาพของ Xiaomi ที่สามารถสร้างรถไฟฟ้า SUV ซึ่งตอบโจทย์ทั้งในด้านดีไซน์ สมรรถนะ เทคโนโลยี และราคาที่แข่งขันได้ในตลาดขนาดใหญ่ กลยุทธ์การบูรณาการ Ecosystem สมาร์ทไลฟ์สไตล์เข้ากับตัวรถ ช่วยให้แบรนด์แตกต่างจากคู่แข่งในอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน
ในยุคที่ผู้บริโภคมองหารถไฟฟ้าที่ “คุ้มค่าและเชื่อมต่อชีวิตได้จริง” YU7 คือหนึ่งในคำตอบที่โดดเด่นที่สุดของปี 2025