ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางและการบริโภคที่ชะลอตัวในหลายเซกเมนต์ กลับมีภาพสะท้อนอีกด้านที่เติบโตสวนทางอย่างชัดเจน—ตลาดลักซ์ชัวรี่ (Luxury Market) ที่ยังคงเติบโตอย่างมั่นคง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีฐานะ (High Net Worth Individuals) และกลุ่มมีกำลังซื้อสูง (Affluent Consumers) ที่กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกแบรนด์จาก “ราคาสูง” สู่ “คุณค่าที่แท้จริง” พร้อมให้ความสำคัญกับความหมายเฉพาะตัว ประสบการณ์ และจริยธรรมของแบรนด์อย่างลึกซึ้ง
นี่คือประเด็นหลักที่ถูกจุดประกายผ่านเวทีเสวนา “KTC FIT Talk ครั้งที่ 18” ภายใต้หัวข้อ “Resilience is the New Luxury: อนาคตเศรษฐกิจไทยในมือผู้บริโภคระดับบน” โดยเคทีซีจับมือพันธมิตรลักซ์ชัวรี่ ได้แก่ สยามพิวรรธน์ เฟอร์รารี่ และยูบิลลี่ ถ่ายทอดมุมมองเชิงลึกถึงการเติบโตของเศรษฐกิจในมุม “K-Shaped Recovery” และการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของตลาดลักซ์ชัวรี่ในระดับโลก
ตลาดลักซ์ชัวรี่ยังโตแรง แม้เศรษฐกิจชะลอ
นายอภิเชษฐ์ เกียรติวรคุณ CFA ผู้อำนวยการ-การเงิน “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า แม้ปี 2568 ไทยกำลังเผชิญ “Perfect Storm” ทางเศรษฐกิจจากปัจจัยรุมเร้า ทั้งการท่องเที่ยวฟื้นตัวช้า หนี้ครัวเรือนสูง และแรงกดดันจากต่างประเทศ แต่การใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าพรีเมียมกลับมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยถึง 9.8% ต่อปี ในช่วงปี 2568–2575 (อ้างอิงจาก Verified Market Research)
“การฟื้นตัวแบบ K-Shaped สะท้อนความเหลื่อมล้ำของการบริโภคอย่างชัดเจน ผู้บริโภคกลุ่มบนยังคงมีกำลังซื้อสูงและมองหาคุณค่าเฉพาะบุคคล แบรนด์ต้องเข้าใจว่า ‘Quiet Luxury’ และ ‘เศรษฐกิจเชิงประสบการณ์’ ไม่ใช่เพียงแฟชั่น แต่คือวิวัฒนาการของการบริโภคในยุคใหม่ ที่ความสัมพันธ์และความจริงใจมีค่ากว่าส่วนลดหรือโลโก้แบรนด์”
อินไซต์ผู้บริโภคระดับบน: ไม่ใช่แค่รวย แต่ลึกซึ้ง
นางประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” เผยว่า ปัจจุบันลูกค้าที่มีรายได้มากกว่า 50,000 บาทต่อเดือน คิดเป็น 20% ของฐานสมาชิก แต่สร้างยอดใช้จ่ายรวมถึง 40% ขณะที่ลูกค้ากลุ่มรายได้เกิน 100,000 บาทต่อเดือนแม้มีเพียง 7–8% แต่มีสัดส่วนการใช้จ่ายสูงถึง 20% โดยหมวดหลักคือ ประกันภัย ท่องเที่ยว สุขภาพ ร้านอาหาร และน้ำมัน
“ผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงในยุคนี้ ไม่ได้มองหาส่วนลดที่มากที่สุด แต่มองหาสิ่งที่ ‘มีคุณค่า’ และ ‘มีความหมาย’ กับชีวิต เราจึงออกแบบกลยุทธ์ในการดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ผ่าน 3 แนวทางหลัก ที่เน้นการสร้างคุณค่าเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง”
- Exclusive Value — สิทธิพิเศษแบบ ‘By Invitation Only’
- CRM & Loyalty Platform — การเชื่อมต่อประสบการณ์ผ่านพันธมิตร เช่น ONESIAM SuperApp
- Service Excellence — เข้าใจ Gen Z และผู้บริโภค tech-savvy ด้วยบริการที่คล่องตัวและชาญฉลาด”ช
นางธณพร ตันติยานนท์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า ONESIAM บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า ลูกค้ารุ่นใหม่ในตลาดลักซ์ชัวรี่กำลังเปลี่ยนวิธีเลือกแบรนด์ ไม่ใช่แค่ความหรูหราหรือราคาแพง แต่ต้อง “มีคุณภาพ หายาก และสะท้อนตัวตน” ซึ่งสยามพิวรรธน์กำลังผลักดันแนวคิด “Sustainable Luxury” ควบคู่กับ Emotional Value
“เราเห็นแบรนด์ Fine Jewelry และ Luxury Watches ยังคงลงทุนกับเราอย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับตัวด้วยกลยุทธ์ Co-Create, Pop-up Experience และคลับ JAI by ONESIAM เพื่อสร้างความเชื่อมโยงแบบลึกกับกลุ่มกำลังซื้อสูงรุ่นใหม่ ในขณะที่องค์กรก็ต้อง Agile และพร้อมรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว”
แบรนด์หรูในไทยไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่ขาย ‘ความสัมพันธ์’
ในฝั่งแบรนด์สินค้าลักซ์ชัวรี่ตัวจริง นางนันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด(ตัวแทน Ferrari อย่างเป็นทางการในไทย) เปิดเผยว่า เฟอร์รารี่ไม่ได้ขายแค่ “รถยนต์หรู” แต่ขาย “ไลฟ์สไตล์และความผูกพัน” ผ่านกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม เช่น Passione Ferrari Club Challenge และ Esperienza Ferrari เพื่อสร้างประสบการณ์และคอมมูนิตี้ของแบรนด์
“True Luxury สำหรับเราคือ ความต่อเนื่อง ความใส่ใจ และความสัมพันธ์ระยะยาว เราลงทุนในระบบ บริการ และบุคลากรเพื่อสร้างมาตรฐานระดับ 5 ดาว เพราะลูกค้าเฟอร์รารี่ไม่ได้ซื้อรถ แต่ซื้อแรงบันดาลใจและความเป็นตัวตน”
ยูบิลลี่ : ลักซ์ชัวรี่ที่สื่อสารกับหัวใจ
ฝั่งแบรนด์ไทยอย่าง ยูบิลลี่ ไดมอนด์ ก็ชูจุดขายในด้าน “คุณภาพเหนือราคา” ผ่านงานออกแบบปราณีต การปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Customization) และการเข้าใจลูกค้าในทุกแพลตฟอร์ม
นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การปรับตัวช่วงโควิดทำให้เราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เราใช้ Customer Insights วางกลยุทธ์เชิงลึก เพื่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างจริงใจ โดยยึดหลัก ‘ปรับไวแต่ไม่ทิ้งแก่น’ และส่งต่อความเชื่อมั่นด้วย 3 แกนหลัก — Excellence, Legacy และ Trust”
ลักซ์ชัวรี่ไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย หากคือ ‘คุณค่าที่ยั่งยืน’
เวที KTC FIT Talk ครั้งนี้สะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงของตลาดลักซ์ชัวรี่ได้อย่างชัดเจน จากแบรนด์ที่เคยแข่งขันกันด้วยราคา โลโก้ และภาพลักษณ์ สู่แบรนด์ที่ต้องเข้าใจความหมายของ “Resilience”, “Personalization” และ “Sustainable Value”
ผู้บริโภคระดับบนในวันนี้ไม่เพียงต้องการสินค้า แต่ต้องการความเชื่อมโยง ประสบการณ์ และเรื่องราวที่สะท้อนตัวตน ซึ่งกลายเป็น ‘สินทรัพย์’ ใหม่ของแบรนด์ในโลกยุคหลังวิกฤต โลกที่ความหรูหราไม่ได้อยู่ในสิ่งของ แต่อยู่ในสิ่งที่ “จับต้องหัวใจได้” อย่างแท้จริง