Best Product: สร้างความต่างด้วยการผสาน iPhone 17 กับเครือข่าย AIS 5G SA 2CC ที่เร็วแรงกว่า 20% รองรับการใช้งานดาต้าและสตรีมมิงเต็มประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับคุณภาพเสียงผ่าน VONR ถือเป็นการลงทุนเครือข่ายเชิงกลยุทธ์ เพื่อให้ iPhone รุ่นใหม่ทำงานได้เต็มศักยภาพ
Best Package: มอบความคุ้มค่าด้วยแพ็กเกจ All in One เริ่มต้น 0 บาท ที่รวมบริการมือถือ เน็ตบ้าน และบริการเสริมครบวงจร พร้อมโปรเทรดอินลดสูงสุด 6,700 บาท สะท้อนการใช้ “ราคา + บริการเสริม” เป็นเครื่องมือดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาฐานเดิม
Best Privilege: ตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการที่สร้าง “ระบบนิเวศดิจิทัล” ด้วยสิทธิพิเศษระดับพรีเมียม ทั้งการดู พรีเมียร์ลีกฟรีสูงสุด 2 ปี, ส่วนลดจาก AIS Points, AppleCare+ และ iCloud+ ที่ออกแบบให้เป็น Lifestyle Bundle ครอบคลุมความบันเทิงและความปลอดภัย
Best Process: เพิ่มความสะดวกสบายด้วยบริการ เทรดอินโอนข้อมูลที่บ้าน ลูกค้าสามารถย้ายข้อมูลไปเครื่องใหม่ได้ก่อนส่งคืนเครื่องเก่า ลดขั้นตอนและความยุ่งยาก อีกทั้งยังมีบริการซื้อ–รับเครื่องผ่านหน้าร้านและออนไลน์กว่า 600 สาขาทั่วประเทศ
Best People: เสริมความมั่นใจด้วยทีม AIS Pro ผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาได้ทั้ง iPhone และอุปกรณ์ใน Apple Ecosystem เช่น iPad, Apple Watch และบริการเสริมอื่น ๆ ถือเป็นการสร้าง “Human Touch” ควบคู่เทคโนโลยี
กระแสแรงสุดในกลุ่มรุ่นท็อป โดย iPhone 17 Pro และ Pro Max ขายหมดทุกสีตั้งแต่รอบแรก แม้แต่สีพิเศษ “ส้ม” ก็หมดอย่างรวดเร็ว ส่วนรุ่น Air ซึ่งถูกจับตาด้วยความระมัดระวังในช่วงแรก กลับได้รับเสียงตอบรับดีเกินคาดหลังได้ทดลองใช้งานจริง ส่งผลให้ยอดจองปีนี้เติบโตสูงกว่าปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลจากเอไอเอสระบุว่า กว่า 80% ของผู้จองยังคงเป็นผู้ใช้ iPhone เดิม โดยเฉพาะ Pro Max ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยทำงานอายุ 35 ปีขึ้นไป ขณะเดียวกัน มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นราว 20% ที่ตัดสินใจย้ายค่ายมาใช้เครือข่าย AIS 5G หนุนด้วยแพ็กเกจ 0 บาทและคอนเทนต์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
ตอกย้ำกลยุทธ์ “ประสบการณ์ครบวงจร” ที่สร้างความแตกต่างและต่อยอดการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื่อได้ที่ https://www.ais.th/iphone