“The Central พหลโยธิน” เมกะโปรเจ็กต์ 21,000 ล้าน ปักหมุดแลนด์มาร์กใหม่ “The Landmark of Northern Bangkok”
เซ็นทรัลพัฒนา เปิดวิสัยทัศน์ “The Flagship of the Future” ต่อยอดความสำเร็จจาก “เซ็นทรัล ลาดพร้าว” สู่การสร้างมหานครศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ดันย่านพหลโยธินขึ้นแท่น The Next CBD ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 21,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 49 ไร่ และพื้นที่ใช้สอยรวม (GBA) กว่า 457,000 ตารางเมตร
ยกระดับกรุงเทพฯ สู่มหานครแห่งอนาคต
“ตลอด 45 ปีที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนาภูมิใจที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเมืองไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน จากศูนย์กลางย่าน ‘เซ็นทรัล ลาดพร้าว’ ที่เป็น Mixed-Use แห่งแรกของประเทศ จนถึงวันนี้เราพร้อมต่อยอดสู่โครงการระดับโลกที่สะท้อนศักยภาพใหม่ของกรุงเทพฯ” ชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและกลุ่มงานพัฒนาโครงการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา
“The Central พหลโยธิน” ถูกวางให้เป็นมากกว่าศูนย์การค้า แต่คือ “Flagship Urban Ecosystem” ที่ผสานความเป็น Cultural, Business & Lifestyle Hub ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยมี Convention Hall ขนาดใหญ่กว่า 6,700 ตร.ม. รองรับอีเว้นท์และคอนเสิร์ตระดับโลก คาดเปิดให้บริการใน ไตรมาส 4 ปี 2569
ย่านพหลโยธิน: จากศูนย์กลางย่านเก่า สู่ The Next CBD
โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ ถนนพหลโยธินและวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นเส้นเลือดหลักเชื่อมกรุงเทพฯ ตอนเหนือกับสนามบินดอนเมือง และเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 2 สายหลัก BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีน้ำเงิน มีปริมาณการจราจรหนาแน่นถึง 337,000 คันต่อวัน และคาดว่าหลังศูนย์เปิดให้บริการจะมีผู้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 30%
“เรามองเห็นพลังของย่านพหลโยธิน–ลาดพร้าวที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งจากโครงการที่อยู่อาศัย ออฟฟิศเกรด A และชุมชนคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงกว่าเฉลี่ยของกรุงเทพฯ ถึง 2.3 เท่า นี่คือจุดกำเนิดของ ‘The Landmark of Northern Bangkok’ อย่างแท้จริง” ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา Chief Marketing Officer บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา
3 พลังขับเคลื่อน “The Central พหลโยธิน”
เซ็นทรัลพัฒนามองศักยภาพของโครงการผ่าน 3 แกนหลักที่เสริมกันเป็นระบบนิเวศเมืองแห่งอนาคต
1 Location Power พหลโยธินคือย่านที่มีโครงสร้างพื้นฐานครบทั้งรถไฟฟ้า ทางด่วน และถนนสายหลัก รายล้อมด้วยหน่วยงานรัฐ สำนักงานเอกชน และมหาวิทยาลัยชั้นนำ 9 แห่ง รวมถึงโรงเรียนอินเตอร์ 6 แห่ง ซึ่งจะเป็นฐานสำคัญของ “Quality Neighbourhood”
- Market Magnet โครงการจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดความเจริญในรูปแบบ “New Growth Engine” ของกรุงเทพฯ โดยมี Catchment Area ครอบคลุมประชากร กว่า 2.5 ล้านคน และยอดขายเฉลี่ยต่อพื้นที่สูงกว่าศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ ถึง 45%
- Flagship of Sub-Culture Communitiesพื้นที่ของทุกเจเนอเรชัน ตั้งแต่ Urban Sport, Art Destination, Family Entertainment ไปจนถึง Creative Playground — เป็น “Collective Social Ground” ที่เชื่อมคนรุ่นใหม่เข้าด้วยกัน
ศูนย์รวม Flagship แบรนด์ระดับโลก
อิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Leasing – Fashion & Luxury บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “The Central พหลโยธิน จะเป็นพื้นที่ที่แบรนด์ระดับโลกสามารถสร้างแฟล็กชิพสโตร์ได้อย่างเต็มศักยภาพ ภายใต้แนวคิด ‘Flagship-Reimagined Destination’ เพื่อยกระดับมาตรฐานรีเทลของกรุงเทพฯ ตอนเหนือให้เทียบชั้นย่านราชประสงค์”
ข้อมูลราคาที่ดินปี 2568 ชี้ว่า พหลโยธินตอนต้นติด Top 10 ทำเลแพงที่สุดในประเทศ ที่ 1.9 ล้านบาทต่อตารางวา โตต่อเนื่องปีละ 5% สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งของย่านนี้
The Central Playlist: คอนเซ็ปต์ดีไซน์ที่ “มีชีวิต”
จุฑาธรรม จิราธิวัฒน์ Head of Business Development บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เผยถึงแรงบันดาลใจการออกแบบว่า “เรามอง The Central พหลโยธิน เป็นเหมือน ‘เพลย์ลิสต์ของกรุงเทพฯ’ ที่ทุกครั้งที่มา จะได้พบกับประสบการณ์ใหม่ ทั้งแฟชั่น อาหาร ศิลปะ และธรรมชาติ”
คอนเซ็ปต์หลัก “The Central Playlist” ผสาน Indoor–Outdoor Seamless Journey มีไฮไลท์สำคัญ เช่น
- Central Stage : พื้นที่จัดกิจกรรมที่เชื่อม International Food ชั้นบน กับ Street Food ชั้นล่าง
- Waterfall Courtyard : โอเอซิสกลางเมืองแนวคิด “From Farm to Table”
- Fashion Playlist : Curated Fashion Houses และ Street Remix แห่งยุคใหม่
- Creative Playlist : พื้นที่เพื่อครอบครัวและคนรุ่นใหม่
- Architecture Concept – Collective Rhythms : ใส่ “Smile” ไว้ในทุกองค์ประกอบของดีไซน์
- Landscape Concept – The Hug : สร้างความอบอุ่นและความใกล้ชิดกับธรรมชาติ
ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายยั่งยืน Net Zero 2050
ภายใต้วิสัยทัศน์ “Imagining Better Futures for All” เซ็นทรัลพัฒนาเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 ทุกศูนย์การค้าติดตั้ง Solar Rooftop, EV Charging Station, และขับเคลื่อน “Green Partnership” ร่วมกับพันธมิตรเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการเป็นบริษัทอสังหาฯ รายแรกของไทยที่ออก Green Bond พร้อมได้รับการจัดอันดับ DJSI Best-in-Class ต่อเนื่อง 7 ปีซ้อน
The Future is Central
โครงการ “The Central พหลโยธิน” ไม่เพียงเป็นเมกะโปรเจ็กต์มูลค่า 21,000 ล้านบาท หากแต่คือ “จุดเปลี่ยน” ของเมืองกรุงเทพฯ ที่จะเชื่อมต่อคน–วัฒนธรรม–เศรษฐกิจ เข้าด้วยกันในจังหวะเดียวกันของอนาคต
“นี่ไม่ใช่แค่ศูนย์การค้า แต่คือ ‘City of Tomorrow’ มหานครขนาดย่อมที่สะท้อนอนาคตของเมืองไทย”