บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำพลังงานที่หลากหลายระดับภูมิภาค เดินหน้ากลยุทธ์ “Energy Symphonics เฟสใหม่” ก้าวสำคัญของการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อปลดล็อกมูลค่าทางธุรกิจ เสริมศักยภาพการเติบโตในระยะยาว และตอบโจทย์โลกพลังงานยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI และพลังงานสะอาด
กลยุทธ์ใหม่นี้เป็นการจัดทัพธุรกิจภายในกลุ่มให้ชัดเจนขึ้น เสริมความคล่องตัวและความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน รองรับดีมานด์พลังงานที่พุ่งสูงจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและศูนย์ข้อมูล (Data Center) ที่ต้องการพลังงานเสถียร พร้อมกับเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050
ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ “4 เสาหลัก Energy Symphonics”
บ้านปูได้จัดระเบียบกลุ่มธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Energy Symphonics ให้มีทิศทางและบทบาทที่ชัดเจนขึ้น โดยกำหนด 4 เสาหลักธุรกิจสำคัญที่จะเป็นแกนกลางขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต ดังนี้
- Next-Gen Mining (เหมืองยุคใหม่) ยกระดับการทำเหมืองด้วยเทคโนโลยี AI, IoT และระบบอัตโนมัติ (Automation) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันยังเดินหน้าสำรวจแหล่งแร่สำคัญที่เป็นวัตถุดิบสำหรับเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น ลิเทียมและแร่โลหะหายาก ซึ่งเป็นหัวใจของการผลิตแบตเตอรี่และอุปกรณ์พลังงานยุคใหม่
- U.S. Closed-Loop Gas (ก๊าซธรรมชาติครบวงจรในสหรัฐฯ) รวมสินทรัพย์ด้านพลังงานก๊าซในสหรัฐฯ ไว้ภายใต้ BKV Corporation (BKV) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เพื่อบริหารห่วงโซ่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติครบวงจร ตั้งแต่การผลิต การจัดเก็บ การดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture & Storage: CCS) ไปจนถึงการผลิตไฟฟ้า เป็นโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์ทั้งด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม
- Power+ (ไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง) ยกระดับ บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) สู่แพลตฟอร์มพลังงานเต็มรูปแบบที่รวมทั้งพลังงานดั้งเดิมและพลังงานหมุนเวียนไว้ด้วยกัน ครอบคลุมโรงไฟฟ้าถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage System: BESS) รวมถึงการค้าพลังงาน (Energy Trading) และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน โดย Power+ จะเป็นหัวจักรหลักในการสร้างรายได้และขยายพอร์ตพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชีย
- Future Tech (เทคโนโลยีแห่งอนาคต) เป็นหน่วยธุรกิจที่เชื่อมโลกพลังงานกับเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ มุ่งลงทุนในเทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น โซลูชันพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy Solutions), ระบบบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management Platform), รวมถึงศูนย์ข้อมูล (Data Center) และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับ AI เพื่อสร้างพลังเสริม (Synergy) ระหว่างพลังงานและเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล
ควบรวม BANPU BPP ตั้ง “NewCo” ปรับโครงสร้างสู่ความยืดหยุ่นสูงสุด
หัวใจของการปรับโครงสร้าง คือ การควบรวมระหว่างบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และ บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดตั้ง “บริษัทใหม่” หรือ “NewCo” ที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในไตรมาส 3 ปี 2569
อัตราการแลกหุ้นเบื้องต้น 1 หุ้น BANPU → 0.35575 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้น BPP → 0.74615 หุ้นในบริษัทใหม่
การควบรวมนี้จะลดความซับซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้นภายในกลุ่ม เพิ่มความคล่องตัวในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และทำให้แต่ละเสาธุรกิจสามารถเติบโตได้เต็มศักยภาพ ขณะเดียวกัน BPP ยังเตรียมขายสิทธิการลงทุน 25% ในกิจการร่วมค้า BKV-BPP Power LLC มูลค่าราว 230.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ BKV เพื่อปลดล็อกเงินทุนและขยายการลงทุนในโอกาสใหม่
ปลดล็อกคุณค่า – ขานรับยุคพลังงาน AI
ด้าน นายอิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “การควบรวมจะทำให้ BPP กลายเป็นเสาธุรกิจหลักภายใต้ Power+ ที่สามารถเข้าถึงห่วงโซ่คุณค่าพลังงานแบบครบวงจรของกลุ่มบ้านปู สร้างสภาพคล่องทางการเงิน และเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว”
เดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่ “ธุรกิจสีเขียว–ยั่งยืน”
บ้านปูวางเป้าหมายการเติบโตที่สอดรับกับการเปลี่ยนผ่านพลังงานโลกอย่างชัดเจน ภายในปี 2030 บริษัทตั้งเป้า เพิ่ม EBITDA เป็น 1.5 เท่า ลดสัดส่วนรายได้จากธุรกิจถ่านหินให้ต่ำกว่า 50% ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 1–2 มากกว่า 20% พร้อมเดินหน้า “Banpu Transition Strategy” สู่พลังงานสะอาดมากขึ้น โดยเน้นการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงาน และโซลูชันพลังงานอัจฉริยะ เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 ภายใต้พันธสัญญา “Our Way in Energy – พลังบ้านปู สู่พลังงานที่ยั่งยืน”
บ้านปูบนเส้นทาง “Energy Company of the Future”
การจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการปรับองค์กรเพื่อรองรับการเติบโตเชิงธุรกิจ แต่คือการปรับ “จังหวะขององค์กร” ให้สอดคล้องกับโลกพลังงานยุคใหม่ บ้านปูตั้งใจสร้างสมดุลระหว่าง “ผลตอบแทน – ความยั่งยืน – สิ่งแวดล้อม” เพื่อก้าวสู่การเป็น บริษัทพลังงานแห่งอนาคต (Energy Company of the Future) ที่พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและภูมิภาคไปพร้อมกับโลกพลังงานสีเขียวในศตวรรษหน้า