ไม่ใช่แค่ชวนดื่ม Mardi Craft คราฟต์เบียร์ที่เป็นมากกว่าเครื่องดื่ม
บริษัท มาร์ดี คราฟท์ จำกัด หรือ Mardi Craft (มาร์ดี คราฟท์) ธุรกิจหนึ่งในเครือของ “คุณเทพอาจ กวินอนันต์” ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายคราฟต์เบียร์ไทย โดยที่เราต่างทราบกันดีว่า Mardi Craft ดำเนินธุรกิจภายใต้คอนเซปต์ “Craft Mind Connects People” ที่เปรียบเสมือนสะพานที่ช่วยเชื่อมโลกของ “คราฟต์เบียร์” ในทุกมิติเข้าด้วยกัน
ล่าสุด “Mardi Craft” มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมที่เปิดรับอนาคตแห่ง “ความยั่งยืน” จับมือร่วมกันกับ “noble PLAY” จัดงาน “เพลินจริต เฟสติวัล 2023″ (PLOENCHARIT)” ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น โดยภายในงาน มาพร้อมบรรยากาศของเทศกาลความสุขส่งท้ายปี เปลี่ยนพื้นที่ “noble PLAY” ใจกลางเพลินจิต ให้เป็นสถานีแลกเปลี่ยนความสุข
สร้างประสบการณ์อย่างยั่งยืนผ่าน 4 กิจกรรม ได้แก่ 1.) “Art & Culture” ที่ชวนให้มาเสพงานศิลป์ กับผลงานจากศิลปินผู้สร้างสรรค์ ผ่านแนวความคิดของ “ภูมิสถาปัตย์” 2.) Live Music: Street to Stage เสียงสะท้อนของความสุขที่แบ่งปันด้วยความร่วมมือกับกลุ่มศิลปิน ที่หมุนเวียนมาสร้างเสียงเพลงและรอยยิ้ม 3.) “Food & Beverage” ลิ้มลองอาหารรสชาติล้ำเลิศจาก Hobs และ 4.) Sustainability: กิจกรรมที่เน้นความสุขและความยั่งยืน ซึ่งประกอบไปด้วยกิจกรรมการรีไซเคิล โดย “Mardi Craft” ในฐานะธุรกิจที่มีความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมุ่งเน้นเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เกิดกิจกรรม “ปันกัน รีไซเคิล เดย์” ที่มีการนำอาหารที่ทานเหลือจากงาน มาแปรสภาพเป็นปุ๋ย ผ่านเครื่องรีไซเคิลขยะ เป็นการให้ผู้ร่วมงานได้เสพความสุขจากงาน และยังได้ทำสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อสังคมได้อีกด้วย ในการลดขยะที่กำลังจะล้น และลดการปล่อยก๊าซของเสีย ที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
บริษัท มาร์ดี คราฟท์ จำกัด เผยว่า “โครงการเพื่อโลกและนำไปสู่ความยั่งยืน Mardi Craft ได้ริเริ่มและดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2023 อาทิ การดำเนินการขั้นตอนในการช่วยลดขยะ การใช้แก้วจากพสาสติกเกรด BIO และกระป๋องที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ นอกจากนี้ในแผนปีหน้า ปี 2024 ก็ยังคงเน้นในเรื่องของความยั่งยืนมากขึ้น จึงให้ความสำคัญในการเลือกวัตถุดิบ โดยเน้นการใช้วัตถุดิบไทยในการผลิต เพื่อสร้างความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ให้กับคอเบียร์ไทย ผ่านการจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่น และยังเป็นการต่อยอดพัฒนายกระดับให้วงการคราฟต์ให้ไปได้ไกลมากขึ้น นอกจากการนำเสนอประสบการณ์การดื่ม “คราฟต์เบียร์” ที่เป็นมากกว่าแค่เครื่องดื่ม”