บี. บราวน์ ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 35 ปีแห่งการปกป้องและพัฒนาสุขภาพของผู้คนในประเทศไทย
บี. บราวน์ ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 35 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดย บี. บราวน์ ประเทศไทย เป็นหนึ่งในสำนักงานสาขาของกลุ่มธุรกิจ บี. บราวน์ บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์ชั้นนำของโลก นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2532 บี. บราวน์ ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันความเชี่ยวชาญเพื่อยกระดับการดูแลรักษาผู้ป่วยในประเทศ
นายสายัณห์ รอย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี. บราวน์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทก้าวสู่ปีที่ 35 ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดย บี. บราวน์ ประเทศไทย เป็นหนึ่งในสำนักงานที่สำคัญของกลุ่มธุรกิจ บี. บราวน์ ที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ จะเห็นได้จากการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก สะท้อนให้เห็นถึงการแบ่งปันความเชี่ยวชาญ เพื่อยกระดับการดูแลรักษาผู้ป่วยในประเทศ ผ่านการให้บริการในรูปแบบต่างๆ ดังนี้
การนำเสนอเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย: มุ่งมั่นพัฒนาโซลูชันที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพในหลากหลายรูปแบบ และผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ ระบบควบคุมอัตโนมัติ (next step automation) เทคโนโลยีการผลิตแบบเพิ่มเนื้อ หรือการพิมพ์แบบสามมิติ (additive manufacturing) การใช้วัสดุขั้นสูง (advanced materials) และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (aritifial intelligence หรือ AI)
ส่งเสริมองค์ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์: พัฒนาทักษะด้านสาธารณสุข เพื่อมุ่งหวังให้เกิดนวัตกรรมด้านการศึกษาที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในชีวิต และก่อให้เกิดการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายทั่วโลก ผ่านทาง เอสคูแลป อะคาเดมี่ ประเทศไทย โดยร่วมกับสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำของประเทศ ปัจจุบันมีศูนย์การเรียนรู้ 5 แห่ง เพื่อแบ่งปันความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ
ศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์: ก่อตั้งศูนย์ให้บริการด้านการซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์ เพื่อช่วยส่งเสริมศักยภาพระบบสุขภาพของประเทศไทย เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริการครอบคลุมกลุ่มธุรกิจทั้งสามของ บี. บราวน์ ทั้งด้านการรักษาพยาบาลผู้ป่วยในโรงพยาบาล (Hospital Care) ด้านการรักษาด้วยการผ่าตัด (Aesculap หรือเอสคูเลป) และด้านการรักษาโรคไตโดยเฉพาะ (Avitum หรืออวิตุม) โดยทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์ทำงานสายโรงพยาบาลหรือเครื่องมือแพทย์โดยเฉพาะ
ศูนย์ไตเทียม บี. บราวน์: ตระหนักถึงความสำคัญของการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมตามมาตรฐานสากลที่ได้รับอนุมัติจากสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย เพื่อแบ่งปันความเชี่ยวชาญในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม โดย บี. บราวน์ ประเทศไทย ก่อตั้งศูนย์ไตเทียม บี. บราวน์ แห่งแรกในปี 2558 เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง และเป็นต้นแบบในการดูแลบำบัดทดแทนไตที่ได้มาตรฐาน โดยปัจจุบันมีศูนย์ไตเทียม 3 แห่ง และเตรียมการขยายศูนย์ไตเทียมเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่เพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
บี. บราวน์ เพื่อสังคม: ให้ความสำคัญด้านความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาชุมชน ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีการแพทย์ชั้นนำของโลก โดย บี. บราวน์ ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนและส่งต่อประโยชน์สู่คนรุ่นต่อไป
ส่งเสริมความหลากหลายในองค์กร: ให้ความสำคัญและชื่นชมความหลากหลาย ทั้งด้านมุมมอง ความคิด ประสบการณ์ และพื้นฐานของแต่ละบุคคล โดยให้อิสระกับพนักงานได้ใช้ศักยภาพของตัวเองในการทำงานอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่าจุดแข็งมาจากมุมมองที่หลากหลาย ทั้งยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความหลากหลายในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น เพศ ศาสนา เชื้อชาติ ฯลฯ ซึ่งการรันตีด้วยรางวัลองค์กรดีเด่นที่น่าร่วมงานที่สุดในเอเชีย 4 ปีติดต่อกัน และรางวัลองค์กรที่สนับสนุนความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่างประจำปี 2566 จาก HR Asia
“พนักงานของเราคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จตลอด 35 ปี ดังนั้น เราจึงเอาพนักงานเป็นศูนย์กลางของทุกก้าวของเรา เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทุกคนมีความใฝ่ฝันที่จะประสบความสำเร็จ เปิดโอกาสการเรียนรู้ รับฟังกันและกัน และเคารพในความหลากหลายเสมอ”
เพื่อเป็นการฉลองก้าวสำคัญครั้งนี้ พนักงาน บี. บราวน์ ประเทศไทย ได้รวมตัวกันในกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเป็นหนึ่งเดียวกัน ผ่านวัฒนธรรมและสมรรถนะหลักในการให้คุณค่าในความหลากหลาย (Value Diversity) แสดงความไว้วางใจ (Show Trust) และการมีจิตสำนึกความรับผิดชอบ (Be Accountable) นอกจากนี้ ยังจัดพิธีทำบุญ ณ สำนักงาน เพื่อความเป็นสิริมงคลมาแก่ทั้งบริษัทและพนักงาน
ทั้งนี้ กิจกรรมเหล่านี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่น ในการสร้างวัฒนธรรมที่เป็นเอกภาพ ซึ่งส่งเสริมความหลากหลาย ให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยและมีคุณค่าในการทำงาน เพื่อให้เราสามารถสานต่อวิสัยทัศน์ในการ “ปกป้องและพัฒนาสุขภาพของผู้คนทั้วโลก” ต่อไป