คปภ. พลิกโฉมตรวจสอบประกันภัยด้วย AI เปิดตัว “OES” เสริมประสิทธิภาพสู่ยุคดิจิทัล
สำนักงาน คปภ. เดินหน้า Digital Transformation ยกระดับกระบวนการตรวจสอบบริษัทประกันภัย เปิดตัวระบบสารสนเทศ Onsite Examination System (OES) ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงลึก วางแผนตรวจสอบ ติดตามผลการแก้ไข และใช้มาตรการแทรกแซงได้อย่างเป็นระบบ เพิ่มความยืดหยุ่นในการกำกับดูแล พร้อมมาตรฐานตรวจสอบเดียวกันทั้งระบบ
นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ เปิดเผยว่า ระบบตรวจสอบบริษัทประกันภัยในรูปแบบดิจิทัล หรือ OES ดังกล่าว สำนักงาน คปภ. ได้มอบหมายให้สายตรวจสอบ โดยนายโสรัจจ์ แรกสกุลชัย ผู้ช่วยเลขาธิการ สายตรวจสอบ พัฒนาขึ้น โดย OES จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การปฏิบัติงานตรวจสอบในมิติของการวิเคราะห์ข้อมูลความเสี่ยงและการประเมินความเสี่ยง รวมการประเมินประสิทธิภาพและความเพียงพอของการควบคุมภายใน การติดตามผลการรายงานการบริหารความเสี่ยงของบริษัทประกันภัย รวมถึงการวางแผนการตรวจสอบมีความรวดเร็ว แม่นยำ และทันต่อสถานการณ์มากขึ้น โดยระบบ OES ได้ถูกออกแบบให้รองรับการทำงานแบบบูรณาการผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลในลักษณะศูนย์กลาง (Centralized Data Platform) ทั้งระหว่างหน่วยงานภายในสำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัยที่สามารถเข้าถึงร่วมกันได้อย่างปลอดภัย อันเป็นการช่วยลดความซับซ้อนของข้อมูล
นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับการปฏิบัติงานตรวจสอบ การจัดทำแบบประเมินความเสี่ยงและประเมินประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายใน รวมถึงการประเมินการปฏิบัติตามกฎหมายสำหรับบริษัทประกันภัยในทุกกระบวนการ โดยบริษัทประกันภัยสามารถทำแบบประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ ได้ผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงสนับสนุนและรองรับการวางแผนการตรวจสอบของสำนักงาน คปภ. โดยข้อมูลที่ได้รับจากการจัดทำแบบประเมินและจากการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบต่างๆ จะถูกนำมาวิเคราะห์ความเสี่ยงและกำหนดแผนการตรวจสอบได้อย่างตรงจุดและรวดเร็วขึ้น รองรับการสั่งการ การกำหนดมาตรการแทรกแซง รวมถึงติดตามประเด็นความเสี่ยงที่ต้องแก้ไขและติดตามความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาจากผลตรวจสอบได้แบบ Realtime นอกจากนี้ ยังพัฒนาให้มีการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยอ่านรายงาน วิเคราะห์แบบฟอร์มติดตาม Top 10 Risks ของแต่ละบริษัท วิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจและรายงานผลการตรวจสอบ เพื่อตรวจจับประเด็นและสัญญาณความเสี่ยงต่าง ๆ ก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้นหรือปัญหาลุกลามบานปลาย
รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบ OES เป็นการเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ยุคดิจิทัล และยกระดับคุณภาพการกำกับธุรกิจประกันภัยไปอีกก้าว โดยใช้เครื่องมือการตรวจสอบยุคใหม่ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบตามแนวทาง Risk – Based Supervision ที่สามารถรองรับกระบวนการปฏิบัติงานตรวจสอบ ทั้งในส่วนบริษัทประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ซึ่งระบบดังกล่าวจะเริ่มใช้งานจริงในช่วงปี 2569
ขณะเดียวกันภาคธุรกิจประกันภัยต้องเตรียมความพร้อมและปรับตัวเพื่อรองรับการทำงานในอนาคต เช่น การบริหารจัดการข้อมูล ( Data Management) ให้สามารถเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์ม OES และเข้าถึงการใช้งานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย รวมถึงพัฒนาและเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เพื่อรองรับกระบวนการปฏิบัติงานตรวจสอบในรูปแบบดิจิทัลร่วมกับสำนักงาน คปภ. โดยสำนักงาน คปภ. เชื่อมั่นว่า ระบบดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบอย่างเข้มข้น หากแต่ยังมีการติดตามสถานการณ์และมีข้อมูลสำหรับการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำมากขึ้น สามารถป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ ช่วยเสริมสร้างและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชน พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพของการตรวจสอบในทุกมิติ ให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพในระดับสากล