เปิดรายชื่อ นักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่- บิ๊ก บจ.จอง IPO หุ้นสยามราชธานี (SO) รับกำไรอู้ฟู่
นำโดย “วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ” นักวางแผนการเงินมือต้นๆ ของเมืองไทย ติดอันดับ 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่ ขณะที่ “เสี่ยปู่” สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ทั้งจองซื้อโดยตรงและจองผ่านกองทุน ขึ้นชั้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 8 ชี้ราคาหุ้นปรับขึ้นจากราคาไอพีโอแล้วกว่า 50% จากราคาหุ้นที่ขึ้นมากว่า 10 บาท จากราคาจองซื้อ 6.50 บาท แถมรับเงินปันผล 9 ธ.ค.อีกหุ้นละ 0.16 บาท ผู้บริหารลั่นเดินหน้าสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอย่างยั่งยืนและมั่นคง
นายจิรณุ กุลชนะรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามราชธานี (SO) ผู้ประกอบธุรกิจการจ้างเหมาบริการครบวงจรชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า เว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดเผยรายงานผลการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) ตามแบบ 81-1-IPO ของ บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) (SO) ที่ได้เสนอขายหุ้นไอพีโอ ระหว่างวันที่ 3 ถึง 7 ตุลาคม 2563 จำนวน 85 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 6.50 บาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และรับประกันการจัดจำหน่วย
ทั้งนี้ ในรายงานผลการเสนอขายหุ้น พบรายชื่อบุคคลผู้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้น 20 อันดับแรก เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่มีชื่อเสียง ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน และนักวางแผนการเงินซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารผู้จัดการกองทุนมืออันดับต้นๆ ของประเทศ ที่น่าสนใจ โดยผู้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นอันดับ 1 คือ นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ ได้รับการจัดสรรจำนวน 2.5 ล้านหุ้น เป็นเงิน16.25 ล้านบาท หรือ 2.94% ตามด้วย อันดับ 2 นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือ “เสี่ยปู่” นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้น ได้รับการจัดสรรหุ้น 2 ล้านหุ้น เป็นเงิน 13.03 ล้านบาท หรือ 2.36%
“ผู้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นอันดับ 1 และ 2 ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของบริษัท สยามราชธานี โดย นางวิวรรณ ถือหุ้น SO อันดับ10 ส่วน ”เสี่ยปู่” ถือหุ้นอันดับ 8 เพราะนอกจากจองซื้อในนามส่วนตัวแล้ว “เสี่ยปู่” ยังได้รับการสรรผ่านการจองซื้อของ บลจ.แอสเซท พลัส ที่บริหารพอร์ตลงทุนให้เสี่ยปู่ด้วย”
สำหรับผู้ได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโอ อันดับ 3 คือ นายจิรณุ กุลชนะรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ได้รับการจัดสรรหุ้น 2 ล้านหุ้น หรือ 2.35% และยังปรากฎรายชื่อผู้บริหารจดทะเบียน (บจ.) ที่ได้ซื้อหุ้น IPO ของ SO เช่น น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ได้รับการจัดสรรอันดับ 8 จำนวน 1 ล้านหุ้น หรือ 1.18% เท่ากับ นายโยธิน ธาราหิรัญโชติ ที่ได้รับการจัดสรร 1 ล้านหุ้น หรือ 1.18% อันดับ 16 นายสุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) ได้รับการจัดสรร 400,00 หุ้น เท่ากับ นายวิโรจน์ พรประกฤต ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ (JUBILE) ที่ได้รับจัดสรร 400,000 หุ้น เช่นกัน
นอกจากนี้ยังพบรายชื่อนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นนักลงทุนที่ลงทุนถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ติดอันดับต้นๆ หลายบริษัท คือ นางจารุณี ชินวงศ์วรกุล ที่ได้รับการจัดสรร 600,000 หุ้น และ น.ส.นลินี แจ่มวุฒิปรีชา ได้รับการจัดสรรหุ้น 300,000 หุ้น
สำหรับรายชื่อนักลงทุนสถาบันที่น่าสนใจ เช่น กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มเซ็ท 50 จองซื้อจำนวน 3.52 ล้านหุ้น บริษัท ทิพยประกันภัย ได้รับการจัดสรร จำนวน 2.3 ล้านหุ้น นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล โดย บลจ.แอสเซท พลัส ได้รับการจัดสรร จำนวน 1.1 ล้านหุ้น กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟโกรทหุ้นระยะยาว ได้รับการจัดสรรจำนวน 810,000 หุ้น กองทุนเปิดหุ้นคุณค่าเพื่อการเลี้ยงชีพ ได้รับการจัดสรร จำนวน 598,000 หุ้น และ น.ส.ธิดา แก้วบุตตา ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ได้รับการจัดสรร 186,000 หุ้น เป็นต้น
โดยนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นไอพีโอของ SO ที่ราคาจองซื้อ 6.50 บาท หากยังคงถือหุ้นเพื่อการลงทุนมาจนถึงวันที่ 9 ธ.ค.2563 จะได้รับกำไรจากการลงทุนแล้วมากกว่า 50% โดยล่าสุดราคาหุ้น SO ขึ้นมาอยู่ที่ระดับมากกว่า 10 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาไอพีโอที่ 6.50 บาท และวันที่ 9 ธ.ค.2563 เงินปันผลจากผลดำเนินงานงวดระหว่างกาล จะโอนเข้าบัญชีผู้ถือหุ้นหลังบริษัทมีมติจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.16บาท หรือจ่ายในอัตรา 80% ของกำไรสุทธิ สูงกว่านโยบายที่ให้ไว้ว่าจะจ่าย ไม่น้อยกว่า 50%
นายจิรณุ กล่าวว่า ภายหลังเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ทั้งจากลูกค้าเดิมที่ใช้บริการกับบริษัทมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ รวมทั้งการเพิ่มหรือขยายบริการใหม่ๆ ให้กับลูกค้า จากการพัฒนาบริการในการบริหารงานบุคลากร โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมทั้งการหาโอกาสขยายธุรกิจใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจหลักของบริษัท
สำหรับรายชื่อผู้จองซื้อหุ้นไอพีโอของบริษัท ที่ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุน “บิ๊กเนม” ที่เป็นที่รู้จักในแวดวงตลาดหุ้นนั้น เชื่อว่าเพราะบุคคลเหล่านี้มีความมั่นใจในธุรกิจของบริษัท ที่มีการดำเนินธุรกิจ มาอย่างยาวนานและมีความมั่นคง ขณะที่ยังเดินหน้าหาโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร เพื่อช่วยให้การทำธุรกิจของลูกค้าง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนและลดภาระองค์กร
ส่วนราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากวันแรกที่เข้าซื้อขายนั้น ถือเป็นหน้าที่ที่ทีมผู้บริหาร และพนักงานจะต้องเดินหน้าสร้างธุรกิจให้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนในระยะยาวมากกว่า ซึ่งในการจองซื้อหุ้นไอพีโอนั้น ทางบริษัทได้จัดสรรหุ้นบางส่วนขายให้ผู้บริหารและพนักงาน เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าของบริษัท เพื่อร่วมผนึกกำลังทุ่มเททำงานให้บริการลูกค้าอย่างเต็มประสิทธิภาพ
“มั่นใจว่าแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2563 จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิเติบโตสวนวิกฤติโควิด- 19 และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เนื่องจากบริษัทมีบริการด้านเทคโนโลยีควบคู่ไปกับบุคลากร จึงสามารถหางานใหม่ๆ เข้ามาได้มากขึ้น ทั้งลูกค้าเดิมที่จ้างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งสัดส่วนการต่อสัญญาของลูกค้าเดิมยังสูงกว่า 90% และลูกค้ารายใหม่ รวมทั้งการขยายบริการใหม่ๆ ต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทให้เติบโตมากขึ้น
ซึ่งลูกค้าใหม่เข้ามาครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจที่บริษัทให้บริการ ได้แก่ 1.SO People บริการบริหารจัดการด้านบุคลากร เช่น พนักงานประจำออฟฟิศ พนักงานขับรถ 2.SO Green บริการดูแลภูมิทัศน์ สวนขนาดใหญ่ 3.SO Wheel บริการ รถยนต์ให้เช่า และ 4.SO Next บริการบริหารจัดการงานบันทึกข้อมูล” นายจิรณุ กล่าวทิ้งท้าย