นายตรรก บุนนาค ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอลมาร์เก็ต ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดการเงิน ปี 2021 ค่าเงินบาทยังแข็ง คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 29.25-30.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีปัจจัยภายนอกซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ชี้นำค่าเงินบาทในปี 2564 คือ นโยบายของสหรัฐฯ ที่มีบทบาทสำคัญทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า ทั้งนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายขนาดใหญ่ และความพยายามที่จะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำมากเป็นระยะเวลานาน การขาดดุลการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจส่งผลให้การคาดการณ์เงินเฟ้อสูงขึ้นและอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงของสินทรัพย์สกุลดอลลาร์ลดลง การขาดดุลแฝด หรือการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและการขาดดุลการคลังในเวลาเดียวกัน การกีดกันทางการค้าที่มีแนวโน้มลดความรุนแรงลงช่วยกดดันค่าเงินหยวนและสกุลคู่ค้าในภูมิภาค เงินทุนไหลกลับสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทย และนโยบายการเงินและการคลังของยูโรโซนในการรับมือกับโควิด-19
ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจไทยและอัตราดอกเบี้ย มองว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวไม่ทั่วถึง เปราะบางและมีความไม่แน่นอนสูง โดยคาดว่า กนง. จะตรึงดอกเบี้ยนโยบายตลอดปี 2564 ไว้ที่ 0.5% จุดเปราะบางสำคัญอยู่ที่การจ้างงานและหนี้ภาคครัวเรือน ซึ่งธนาคารกลางทั่วโลกย้ำว่า นโยบายการคลังควรมีบทบาทหลักในการแก้วิกฤตที่เกิดจากโรคระบาดและการปิดเมือง ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่ระดับต่ำตามแนวโน้มการตรึงดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ขณะที่การระดมทุนทั้งจากภาคเอกชนและภาครัฐส่งผลให้อัตราผลตอบแทนระยะยาวสูงขึ้นเล็กน้อย
นายตรรก กล่าวอีกว่า ในส่วนภาพรวมการลงทุนในปี 2564 มองว่ามีความราบเรียบแต่ไม่ราบลื่น เพราะแนวโน้มการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก สะท้อนจากดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับสูงกว่า 1,400 จุด ส่วนพันธบัตรแม้ว่าผลตอบแทนระยะสั้นจะต่ำ แต่ผลตอบแทนระยะยาวถือว่าสูงแล้ว ส่วนภาคเอกชนมีการออกหุ้นกู้และการออกหุ้นกู้รุ่นใหม่เพื่อทดแทนรุ่นเดิม (Roll Over) ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศนั้น ถือเป็นปัจจัยพิเศษที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
“เศรษฐกิจไทยปี 2564 คาดว่าจะเติบโต 3.3% กลับมาดีขึ้นจากสิ้นปี 2563 ที่ติดลบประมาณ 6.4% ตัวเลขส่งออกปีหน้าคาดว่าเติบโตที่ 4.5% ดีขึ้นกว่าปีนี้ ขณะที่ตัวเลขนำเข้าปีหน้าคาดว่าเติบโต 6.5% ดีขึ้นจากปีนี้เช่นกัน ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวมองว่าปีหน้าอยู่ที่ 4.5 ล้านคน ด้านบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ 18.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ”