จัดคาราวานรณรงค์และสร้างความรู้ความเข้าใจตามกรมธรรม์ประกันภัยรถ พ.ร.บ. ให้ชาวนครราชสีมา พร้อมขับเคลื่อน “ปากช่องโมเดล” เป็นต้นแบบกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้เจ้าของรถ ตระหนักและเห็นความสำคัญของการจัดทำประกันภัยรถ
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับ พ.ร.บ.” ณ มูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถาน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์และสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 หรือ ประกันภัย พ.ร.บ.
รวมถึงบทบาทหน้าที่และภารกิจของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย โดยมี นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยผู้บริหาร สำนักงาน คปภ. หัวหน้าส่วนภาครัฐ ผู้บริหารกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ผู้บริหารกองทุนประกันชีวิต กองทุนประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันภัย นายหน้าประกันภัย และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานกว่า 300 คน
ดังนั้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนรณรงค์ส่งเสริมการจัดทำประกันภัยรถตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 อย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้เจ้าของรถได้รับทราบถึงประโยชน์การจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. สำนักงาน คปภ. จึงได้จัดให้มีกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. ผ่านโครงการ “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับ พ.ร.บ.”
โดยมีกิจกรรมการเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในหัวข้อเรื่อง “ประโยชน์ของการประกันภัย พ.ร.บ. และบทบาทหน้าที่ของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย” พร้อมปล่อยขบวนคาราวานรถจักรยานยนต์กว่า 100 คัน และจัดกิจกรรมการออกบูธประชาสัมพันธ์ของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย และหน่วยงานเครือข่าย ประกอบด้วย กองทุนประกันชีวิต กองทุนประกันวินาศภัย สมาคมตัวแทนและที่ปรึกษาทางการเงินจังหวัดนครราชสีมา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขานครราชสีมา บริษัทประกันภัย และนายหน้าประกันภัย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์ในวันนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากสำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) ได้จัดทำโครงการ “ปากช่องโมเดล” เพื่อสำรวจข้อมูลและความคิดเห็นของประชาชนชาวอำเภอปากช่อง เกี่ยวกับปัญหาและสาเหตุของการไม่จัดทำประกันภัย พ.ร.บ. โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ซึ่งพบว่า ปัญหาเกิดจากการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้านการประกันภัย พ.ร.บ. ยังไม่ทั่วถึง และประชาชนยังรับทราบข้อมูลไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ยังมีภารกิจที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การคุ้มครองดูแลผู้ประสบภัยจากรถ ให้ได้รับการช่วยเหลือและเยียวยาจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย กรณีประสบภัยจากรถที่ไม่มีการจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. หรือกรณีที่รถมีการประกันภัย พ.ร.บ. แต่ไม่อาจใช้สิทธิได้ ผ่านการจ่ายเงินค่าเสียหายเบื้องต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยลดภาระทางการเงินแก่ผู้ประสบภัยจากรถแล้ว ยังลดภาระหรือก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องทั้งระบบ ตั้งแต่ครอบครัวผู้ประสบภัย ผู้ขับขี่และครอบครัว สถานพยาบาล หรือแม้แต่นายจ้างหรือเจ้าหนี้ของผู้ประสบภัย
และหากกรณีได้รับบาดเจ็บและต่อมาสูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวรหรือเสียชีวิต จะได้รับเงินชดเชยสูงสุดไม่เกิน 65,000 บาท แต่อย่างไรก็ตามเมื่อกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ได้จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัยจากรถแล้ว อีกหน้าที่หนึ่งของกองทุนที่ต้องดำเนินการ คือ การไล่เบี้ยเรียกคืนค่าเสียหายเบื้องต้นพร้อมเงินเพิ่มร้อยละ 20 จากเจ้าของรถที่ฝ่าฝืนไม่จัดให้มีการประกันภัย พ.ร.บ. นอกจากนี้เจ้าของที่ฝ่าฝืนไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ. จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และผู้ที่ใช้รถคันที่ไม่ทำประกันภัย พ.ร.บ. จะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท เช่นเดียวกัน
ด้าน นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณสำนักงาน คปภ.ที่คัดเลือกจังหวัดนครราชสีมาเป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมโครงการ “ขับขี่ปลอดภัย อุ่นใจไปกับ พ.ร.บ.” ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างความรู้ความเข้าใจ ความตระหนักให้พี่น้องประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ได้รับทราบถึงสิทธิ หน้าที่ และความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 รวมถึงบทบาทหน้าที่ของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย เพื่อนำไปใช้บริหารความเสี่ยงในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง และเป็นธรรม