CHEWA กำไรโตต่อเนื่อง รอรับทรัพย์โครงการใหม่ ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 เฟส 2 พร้อมโปรโมชั่นจัดเต็มช่วงสิ้นปี

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565  บริษัทมีรายได้รวม 1,691.75  ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.66 หรือ 90.70 จาก 1,601.05 ล้านบาทในไตรมาส 3/2564  เฉพาะในไตรมาสที่ 3 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่  495.78 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.21 หรือ 65.47 ล้านบาท จาก 430.31 ล้านบาทในไตรมาส 3/2564 สาเหตุหลักมาจาก ยอดโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการแนวสูง จำนวน 7 โครงการ เป็นจำนวน 302.96 ล้านบาท เป็นสัดส่วนร้อยละ 61.11 ของรายได้รวม และโครงการแนวราบ จำนวน 6 โครงการ เป็นจำนวน 159.28 ล้านบาท เป็นสัดส่วนร้อยละ 32.13 ของรายได้รวม รวมถึงโครงการบ้านมือสอง จำนวน 13.65 ล้านบาท เป็นสัดส่วนร้อยละ 2.75 และรายได้อื่น 19.89 ล้านบาท เป็นสัดส่วนร้อยละ 2.75 ของรายได้รวม

บริษัทมีกำไรสุทธิเบ็ดเสร็จ อยู่ที่ 108.40 ล้านบาท คิดเป็นกำไรเพิ่มขึ้น 53.94 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1,654.73 ล้านบาท ถือเป็นสัดส่วนร้อยละ 59.10 ของรายได้ที่ประมาณการไว้ ซึ่งแบ่งเป็นโครงการแนวสูง 1,072.67 ล้านบาท ถือเป็นสัดส่วนร้อยละ 38.31 และสำหรับโครงการแนวราบมีรายได้ 562.81 ล้านบาท ถือเป็นร้อยละ 20.10 และโครงการบ้านมือ 2 จำนวน 19.24 ล้านบาทหรือร้อยละ 0.69 ของรายได้ที่ประมาณการไว้  แม้ในไตรมาส 3/2565 นี้ต่ำกว่าเป้าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังคงเหลือไตรมาสสุดท้ายก่อนสิ้นปี นอกจากโครงการเดิมที่ยังรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง อีกหนึ่งโครงการที่จะรับรู้รายได้ตามกำหนดในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ คือโครงการชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 (เฟส2) มูลค่าโครงการ 994 ล้านบาท ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากเฟส 1 ที่เปิดเมื่อปีที่ผ่านมาแล้ว โครงการชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 เฟส 2 นี้ ยังเป็นโครงการแรกของชีวาทัยที่เป็นคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทยังได้แรงหนุนจากงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 42 ในช่วงวันที่ 27-30 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยบริษัทสามารถปิดยอดขายบ้านและคอนโด รวมกันกว่า 100 ล้านบาท โดยโครงการที่ทำยอดขายสูงสุด คือ ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค ลาดพร้าว – โชคชัย 4 เฟส 2 รองลงมาคือ ชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์ และมีสถิติการจองของลูกค้าเก่าในอัตราที่ดี ความสำเร็จดังกล่าวมาจากการพัฒนาระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพทั้งบริการ รวมถึงคุณภาพของโครงการที่ชีวาทัยใส่ใจและดูแลลูกค้าอย่างมีมาตรฐาน ทำให้นอกจากยอดขายที่ดีแล้ว ยังมีการวัดและประเมินผลความพึงพอใจลูกค้า ด้วยยอดการรับสินค้าในครั้งแรก (ZERO DEFECT) สูงกว่า 80% ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้น

“ชีวาทัย” ยังคงยึดมั่นด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย จาก “ ชีวาแคร์ ” ยึดมั่นเป้าหมายขึ้นที่ 1 ในใจลูกค้าด้านคุณภาพและบริการ สำหรับกลุ่มบริษัทอสังหาฯ ช่วงรายได้ไม่เกิน 5 พันล้านบาท พร้อมกันนี้ยังคงเดินหน้ารักษาคุณภาพสินค้าให้ลูกค้าตรวจ Zero Defect ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อโครงการกับชีวาทัย ได้สิ่งที่ดีและมีคุณภาพสูงสุด ตั้งแต่บริการก่อนการขายตลอดจนถึงบริการหลังการขาย ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดสู่ลูกค้าทุกคน” นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว

CHEWAQ3-2022ชีวาทัย
Comments (0)
Add Comment